วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560

เครื่องซักผ้าHITACHIนํ้ารั่วทั้งเครื่อง HITACHI all leak Water Washing matchine



เครื่องซักผ้าHITACHIนํ้ารั่วทั้งเครื่อง HITACHI all leak Water Washing matchine
30/4/2560 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
เครื่องซักผ้าHITACHIนํ้ารั่วทั้งเครื่อง HITACHI all leak Water Washing matchine

การซ่อมต้องใส่รองเท้า และห้ามเปียกน้ำ
และห้ามมีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
แตะถูกตัวนำไฟฟ้า
เพราะอันตรายอาจถึงชีวิตได้

ถ้าเครื่องซักผ้าขณะน้ำไหลเข้าถังซักผ้า
แล้วกดPAUSEหรือปิดเครื่องแล้วน้ำยังไหลต่อได้
แสดงว่าเสีย วาล์วน้ำเสีย ลักษณะค้าง
สปริงภายในโซลินอยด์วาล์วน้ำเป็นสนิม

ถ้าเครื่องซักผ้าตั้งระดับน้ำต่ำสุดแต่ได้ระดับน้ำสูงสุด
แสดงว่า เพรสเชอร์มีคนปรับผิดตำแหน่ง
ปรับสกรูต่ำลง ได้น้ำสูงขึ้น
ปรับสกรูสูงขึ้น ได้น้ำต่ำลง
การปรับสกรู กับระดับน้ำจะสวนทางกัน

โซลินอยด์วาล์วน้ำเข้า หรือINTAKE VALVE
จะมีค่าความต้านทานอยู่ที่ประมาณ 4.9KΩ
ใช้ไฟ 220VAC/50HZ
กินกระแสประมาณ 31.74 มิลลิแอมป์(mA)

ถ้าเครื่องซักผ้าขณะน้ำไหลเข้าถังซักผ้า
แล้วกดPAUSEหรือปิดเครื่องแล้วน้ำยังไหลต่อได้
แสดงว่าเสีย วาล์วน้ำเสีย ลักษณะค้าง
สปริงภายในโซลินอยด์วาล์วน้ำเป็นสนิม

ถ้าเครื่องซักผ้าตั้งระดับน้ำต่ำสุดแต่ได้ระดับน้ำสูงสุด
แสดงว่า เพรสเชอร์มีคนปรับผิดตำแหน่ง
ปรับสกรูต่ำลง ได้น้ำสูงขึ้น
ปรับสกรูสูงขึ้น ได้น้ำต่ำลง
การปรับสกรู กับระดับน้ำจะสวนทางกัน


การปรับเพรสเชอร์ ที่ตัวเพรสเชอร์จะมีนัทปรับ
ถ้าปรับนัทลงไป น้ำที่ได้จะสูงขึ้น
ถ้าปรับมัทขึ้นมา น้ำที่ได้จะต่ำลง
จำง่ายๆ นัทกับน้ำจะสวนทางกัน

เวลาปรับจะต้องรีเซ็ทถังก่อน
การรีเซ็ทถังคือ การไล่น้ำในถังออกให้หมด
ถ้ามีน้ำในถังให้ทำการกดPOWER กดSPIN กดSTART
ทำการปั่นแห้งเพื่อเดรนน้ำในถังออกให้หมด

จากนั้นทำการปรับนัทไปประมาณ1รอบหรือ60นาที
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด กดSTART
แล้วรอดูน้ำว่าสูงสุดแล้วได้ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
ถ้าไม่ได้ตามที่เราต้องการก็ให้เริ่มต้นใหม่จนได้ระดับน้ำตามที่ต้องการ
เมื่อตั้งเสร็จแล้วให้ใช้ซิลิโคนหรือกาวทาที่นัทเพรสเชอร์เพื่อกันเคลื่อน
เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ

ถ้ามีน้ำในถังจะปรับยาก เพราะการปรับจะเพี้ยนทำให้ปรับยาก
สาเหตุเพราะ
นักโปรแกรมเมอร์จะเขียนคำสั่งเป็นห้องๆไว้
และมีการเปรียบเทียบความถี่ เช่น
ถ้าความถี่มากกว่าให้วาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่อง
ถ้าความถี่น้อยกว่าให้หยุดการทำงานวาล์วน้ำ
และสั่งให้มอเตอร์หมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อทำการซักต่อไปนั่นเอง
และมีคำสั่งพ่วงท้ายว่าถ้าความถี่สูงขึ้นกี่HZ
จึงจะสั่งวาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่องเพื่อเติมน้ำที่พร่องหายไป
และยังมีคำสั่งอีนๆอีกมากมาย

การปรับเพรสเชอร์ ที่ตัวเพรสเชอร์จะมีนัทปรับ
ถ้าปรับนัทลงไป น้ำที่ได้จะสูงขึ้น
ถ้าปรับมัทขึ้นมา น้ำที่ได้จะต่ำลง
จำง่ายๆ นัทกับน้ำจะสวนทางกัน

เวลาปรับจะต้องรีเซ็ทถังก่อน
การรีเซ็ทถังคือ การไล่น้ำในถังออกให้หมด
ถ้ามีน้ำในถังให้ทำการกดPOWER กดSPIN กดSTART
ทำการปั่นแห้งเพื่อเดรนน้ำในถังออกให้หมด

จากนั้นทำการปรับนัทไปประมาณ1รอบหรือ60นาที
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด กดSTART
แล้วรอดูน้ำว่าสูงสุดแล้วได้ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
ถ้าไม่ได้ตามที่เราต้องการก็ให้เริ่มต้นใหม่จนได้ระดับน้ำตามที่ต้องการ
เมื่อตั้งเสร็จแล้วให้ใช้ซิลิโคนหรือกาวทาที่นัทเพรสเชอร์เพื่อกันเคลื่อน
เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ

ถ้ามีน้ำในถังจะปรับยาก เพราะการปรับจะเพี้ยนทำให้ปรับยาก
สาเหตุเพราะ
นักโปรแกรมเมอร์จะเขียนคำสั่งเป็นห้องๆไว้
และมีการเปรียบเทียบความถี่ เช่น
ถ้าความถี่มากกว่าให้วาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่อง
ถ้าความถี่น้อยกว่าให้หยุดการทำงานวาล์วน้ำ
และสั่งให้มอเตอร์หมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อทำการซักต่อไปนั่นเอง
และมีคำสั่งพ่วงท้ายว่าถ้าความถี่สูงขึ้นกี่HZ
จึงจะสั่งวาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่องเพื่อเติมน้ำที่พร่องหายไป
และยังมีคำสั่งอีนๆอีกมากมาย

สายยางเพรสเชอร์
  ถ้ายาวเกินไปก็จะทำให้สายยางหลุดง่าย
เพราะสายยางจะเตะกับถังขณะปั่นแห้ง
  ถ้าสั้นเกินไปก็จะทำให้สายยางหลุดง่าย
เพราะจะถูกกระชากหลุดตอนปั่นแห้งเช่นกัน
ดังนั้นสายยางจะต้องไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไปนั่นเอง

ถ้าสายยางเพรสเชอร์หลุดหรือรั่ว
จะเกิดอาการน้ำล้นถัง และน้ำรั่วใต้ถัง

น้ำล้นถังเพราะไม่มีแรงดันไปที่ตัวเพรสเชอร์
เพื่อกดหน้ายางไดอะแฟรม
ทำให้แกนเฟอร์ไรท์ไม่สามารถสอดเข้าไปในขดลวดได้มากขึ้น
ทำให้ความถี่ที่ตัวเพรสเชอร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ทำให้MCUที่คอยตรวจจับความถี่ที่ตัวเพรสเชอร์
เข้าใจว่าน้ำยังไม่เต็มถัง MCUจึงไม่สั่งหยุดไฟวาล์วน้ำ
ทำให้น้ำไหลเข้าเครื่องตลอดเวลา
และเมื่อวาล์วน้ำทำงานนานจนถึงช่วงเวลาหนึ่ง
ตามที่นักโปรแกรมเมอร์เขียนสั่งงานMCUไว้
ก็จะฟ้องERROR และหยุดการทำงานวาล์วน้ำทันที

การปรับเพรสเชอร์ ที่ตัวเพรสเชอร์จะมีนัทปรับ
ถ้าปรับนัทลงไป น้ำที่ได้จะสูงขึ้น
ถ้าปรับมัทขึ้นมา น้ำที่ได้จะต่ำลง
จำง่ายๆ นัทกับน้ำจะสวนทางกัน

เวลาปรับจะต้องรีเซ็ทถังก่อน
การรีเซ็ทถังคือ การไล่น้ำในถังออกให้หมด
ถ้ามีน้ำในถังให้ทำการกดPOWER กดSPIN กดSTART
ทำการปั่นแห้งเพื่อเดรนน้ำในถังออกให้หมด

จากนั้นทำการปรับนัทไปประมาณ1รอบหรือ60นาที
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด กดSTART
แล้วรอดูน้ำว่าสูงสุดแล้วได้ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
ถ้าไม่ได้ตามที่เราต้องการก็ให้เริ่มต้นใหม่จนได้ระดับน้ำตามที่ต้องการ
เมื่อตั้งเสร็จแล้วให้ใช้ซิลิโคนหรือกาวทาที่นัทเพรสเชอร์เพื่อกันเคลื่อน
เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ

ถ้ามีน้ำในถังจะปรับยาก เพราะการปรับจะเพี้ยนทำให้ปรับยาก
สาเหตุเพราะ
นักโปรแกรมเมอร์จะเขียนคำสั่งเป็นห้องๆไว้
และมีการเปรียบเทียบความถี่ เช่น
ถ้าความถี่มากกว่าให้วาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่อง
ถ้าความถี่น้อยกว่าให้หยุดการทำงานวาล์วน้ำ
และสั่งให้มอเตอร์หมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อทำการซักต่อไปนั่นเอง
และมีคำสั่งพ่วงท้ายว่าถ้าความถี่สูงขึ้นกี่HZ
จึงจะสั่งวาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่องเพื่อเติมน้ำที่พร่องหายไป
และยังมีคำสั่งอีนๆอีกมากมาย

อาการที่1 วาล์วน้ำค้างปล่อยน้ำตลอด
ตรวจสอบโดยการกดPOWER กดSTART
MCU สั่งไฟไปที่วาล์วน้ำ น้ำไหลเข้าเครื่องพอกดPOWERปิดเครื่อง
MCUก็หยุดจ่ายไฟให้วาล์วน้ำ ทำให้น้ำหยุดไหล
แต่ถ้าปล่อยให้วาล์วน้ำทำงานไปนานๆประมาณห้านาที
แล้วกดปุ่มPOWERปิดเครื่อง หรือดึงปลั๊กออก
น้ำก็ยังไหลไม่หยุดเนื่องจากวาล์วน้ำเกิดอาการค้าง
คือไม่สามารถปิดน้ำให้สนิทได้ เนื่องจากสปริงภายในวาล์วน้ำเป็นสนิม
ไม่มีแรงสปริงที่เพียงพอในการกดแผ่นยางนั่นเอง
แก้โดยซื้อวาล์วน้ำมือสอง ราคา50บาทมาเปลี่ยน

อาการที่2 น้ำไหลเข้าเครื่องตลอดไม่ยอมซัก
ตรวจสอบโดยปิดเครื่องหรือดึงปลั๊กไฟออก
จากนั้นตรวจสายยางเพรสเชอร์
ว่าระดับน้ำในสายยางเท่ากับระดับน้ำในถังหรือไม่
หรือดูที่กระบอกแรงดันว่ามีน้ำเต็มกระบอกแรงดันหรือไม่
ปรากฏว่าน้ำอยู่แค่ปากกระบอกแรงดันแสดงว่าสายยางไม่รั่ว
นั่นหมายความว่ามีคนมาปรับเพรสเชอร์แต่ปรับผิดอยู่
เพราะสปริงภายในเพรสเชอร์จะคอยดันนัทออกมาให้สูงขึ้น
ซึ่งจะเกิดอาการน้ำหด
   จากนั้นปรับเพรสเชอร์ให้นัทขึ้นมาประมาณ2รอบหรือ120นาที
คือรอบละ60นาที
จากนั้นเดรนน้ำในถังออกให้หมดด้วยการกดPOWER START SPIN
เป็นการรีเซ็ทถัง ถ้าไม่รีเซ็ทถังจะทำให้การปรับเพี้ยนปรับไม่สำเร็จ
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด กดSTART
ถ้าน้ำยังไม่ได้ตามที่ต้องการก็เริ่มต้นตามขั้นตอนเดิมใหม่
คือถ้าปรับนัทลงไป ได้น้ำสูงขึ้นมา
ถ้าปรับนัทขึ้นมา ได้น้ำต่ำลงไป
  หลังจากปรับเพรสเชอร์เสร็จแล้ว
ให้ใช้ซิลิโคนทาไว้ที่ปรับเพื่อกันเคลื่อน
ถ้าไม่อย่างนั้นเวลาเครื่องปั่นแห้งเพรสเชอร์จะคลายออก
เพราะสปริงภายในเพรสเชอร์จะคอยดันที่ปรับให้สูงขึ้น
ทำให้ได้น้ำหดลง เกิดอาการน้ำหดไม่เต็มถังนั่นเอง

อาการที่3 เก็บน้ำไม่อยู่ขณะซักและเมื่อเดรนน้ำทิ้งน้ำพุ่งออกใต้ถัง
ลูกยางมีตะกรัน ทำความสะอาดลูกยาง
 
อาการที่4 น้ำรั่วหยดใต้ถังเวลาซัก
การหยดตรงที่เวลาถอดออกมาตรงที่สวมเข้ากับถัง
ใช้ซิลิโคนหลอดละ 80บาท
ทาแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ทิ้งไว้ประมาณ1ชม

อาการที่5 น้ำรั่วด้านหลังใกล้กับวาล์วน้ำเข้า ถอดฝาออกมาไม่รั่ว
เป็นเพราะเวลาประกอบฝาบนด้านหลัง
จะทำให้วาล์วน้ำอยู่ในระนาบ ดันพลาสติกที่กั้นน้ำที่แตกจนอ้าออก
ทำให้น้ำพุ่งออกมาเวลาประกอบกับเข้าไป
ใช้ซิลิโคนอุดรอยรั่ว

อาการที่6 เสียงดังเอี๊ยดขณะซัก
สายพานหย่อนประมาณ3.5ซม.
ปรับสายพานให้ตึง เป็น2-3ซม.
เสียงดังเอี๊ยดหายแล้ว

อาการที่7 เสียงดังก๊อกขณะซัก
ถอดจานซักออกมาดูไม่พบสิ่งแปลกปลอม
สันนิษฐานว่าเป็นที่ชุดคลัชท์เป็นสนิม
เนื่องจากน้ำรั่วพุ่งขณะเดรนน้ำทิ้ง

ค่าอะไหล่
วาล์วน้ำมือ2 ราคา50บาท
ซิลิโคน 1หลอด 80บาท
ค่าน้ำมันไปซื้ออะไหล่ 100บาท
ค่าน้ำทดลองซัก 10บาท
รวมเป็นเงิน 240บาท
คิดเงินเพื่อนบ้านไป 500บาท ได้กำไร 260บาท

เชิญดูคลิปวีดีโอประกอบ




นํ้ารั่วทั้งเครื่องซักผ้าHITACHI all leak Water Washing matchine



นํ้ารั่วทั้งเครื่องซักผ้าHITACHI all leak Water Washing matchine
30/4/2560 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
นํ้ารั่วทั้งเครื่องซักผ้าHITACHI all leak Water Washing matchine

การซ่อมต้องใส่รองเท้า และห้ามเปียกน้ำ
และห้ามมีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
แตะถูกตัวนำไฟฟ้า
เพราะอันตรายอาจถึงชีวิตได้

ถ้าเครื่องซักผ้าขณะน้ำไหลเข้าถังซักผ้า
แล้วกดPAUSEหรือปิดเครื่องแล้วน้ำยังไหลต่อได้
แสดงว่าเสีย วาล์วน้ำเสีย ลักษณะค้าง
สปริงภายในโซลินอยด์วาล์วน้ำเป็นสนิม

ถ้าเครื่องซักผ้าตั้งระดับน้ำต่ำสุดแต่ได้ระดับน้ำสูงสุด
แสดงว่า เพรสเชอร์มีคนปรับผิดตำแหน่ง
ปรับสกรูต่ำลง ได้น้ำสูงขึ้น
ปรับสกรูสูงขึ้น ได้น้ำต่ำลง
การปรับสกรู กับระดับน้ำจะสวนทางกัน

โซลินอยด์วาล์วน้ำเข้า หรือINTAKE VALVE
จะมีค่าความต้านทานอยู่ที่ประมาณ 4.9KΩ
ใช้ไฟ 220VAC/50HZ
กินกระแสประมาณ 31.74 มิลลิแอมป์(mA)

ถ้าเครื่องซักผ้าขณะน้ำไหลเข้าถังซักผ้า
แล้วกดPAUSEหรือปิดเครื่องแล้วน้ำยังไหลต่อได้
แสดงว่าเสีย วาล์วน้ำเสีย ลักษณะค้าง
สปริงภายในโซลินอยด์วาล์วน้ำเป็นสนิม

ถ้าเครื่องซักผ้าตั้งระดับน้ำต่ำสุดแต่ได้ระดับน้ำสูงสุด
แสดงว่า เพรสเชอร์มีคนปรับผิดตำแหน่ง
ปรับสกรูต่ำลง ได้น้ำสูงขึ้น
ปรับสกรูสูงขึ้น ได้น้ำต่ำลง
การปรับสกรู กับระดับน้ำจะสวนทางกัน


การปรับเพรสเชอร์ ที่ตัวเพรสเชอร์จะมีนัทปรับ
ถ้าปรับนัทลงไป น้ำที่ได้จะสูงขึ้น
ถ้าปรับมัทขึ้นมา น้ำที่ได้จะต่ำลง
จำง่ายๆ นัทกับน้ำจะสวนทางกัน

เวลาปรับจะต้องรีเซ็ทถังก่อน
การรีเซ็ทถังคือ การไล่น้ำในถังออกให้หมด
ถ้ามีน้ำในถังให้ทำการกดPOWER กดSPIN กดSTART
ทำการปั่นแห้งเพื่อเดรนน้ำในถังออกให้หมด

จากนั้นทำการปรับนัทไปประมาณ1รอบหรือ60นาที
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด กดSTART
แล้วรอดูน้ำว่าสูงสุดแล้วได้ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
ถ้าไม่ได้ตามที่เราต้องการก็ให้เริ่มต้นใหม่จนได้ระดับน้ำตามที่ต้องการ
เมื่อตั้งเสร็จแล้วให้ใช้ซิลิโคนหรือกาวทาที่นัทเพรสเชอร์เพื่อกันเคลื่อน
เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ

ถ้ามีน้ำในถังจะปรับยาก เพราะการปรับจะเพี้ยนทำให้ปรับยาก
สาเหตุเพราะ
นักโปรแกรมเมอร์จะเขียนคำสั่งเป็นห้องๆไว้
และมีการเปรียบเทียบความถี่ เช่น
ถ้าความถี่มากกว่าให้วาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่อง
ถ้าความถี่น้อยกว่าให้หยุดการทำงานวาล์วน้ำ
และสั่งให้มอเตอร์หมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อทำการซักต่อไปนั่นเอง
และมีคำสั่งพ่วงท้ายว่าถ้าความถี่สูงขึ้นกี่HZ
จึงจะสั่งวาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่องเพื่อเติมน้ำที่พร่องหายไป
และยังมีคำสั่งอีนๆอีกมากมาย

การปรับเพรสเชอร์ ที่ตัวเพรสเชอร์จะมีนัทปรับ
ถ้าปรับนัทลงไป น้ำที่ได้จะสูงขึ้น
ถ้าปรับมัทขึ้นมา น้ำที่ได้จะต่ำลง
จำง่ายๆ นัทกับน้ำจะสวนทางกัน

เวลาปรับจะต้องรีเซ็ทถังก่อน
การรีเซ็ทถังคือ การไล่น้ำในถังออกให้หมด
ถ้ามีน้ำในถังให้ทำการกดPOWER กดSPIN กดSTART
ทำการปั่นแห้งเพื่อเดรนน้ำในถังออกให้หมด

จากนั้นทำการปรับนัทไปประมาณ1รอบหรือ60นาที
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด กดSTART
แล้วรอดูน้ำว่าสูงสุดแล้วได้ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
ถ้าไม่ได้ตามที่เราต้องการก็ให้เริ่มต้นใหม่จนได้ระดับน้ำตามที่ต้องการ
เมื่อตั้งเสร็จแล้วให้ใช้ซิลิโคนหรือกาวทาที่นัทเพรสเชอร์เพื่อกันเคลื่อน
เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ

ถ้ามีน้ำในถังจะปรับยาก เพราะการปรับจะเพี้ยนทำให้ปรับยาก
สาเหตุเพราะ
นักโปรแกรมเมอร์จะเขียนคำสั่งเป็นห้องๆไว้
และมีการเปรียบเทียบความถี่ เช่น
ถ้าความถี่มากกว่าให้วาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่อง
ถ้าความถี่น้อยกว่าให้หยุดการทำงานวาล์วน้ำ
และสั่งให้มอเตอร์หมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อทำการซักต่อไปนั่นเอง
และมีคำสั่งพ่วงท้ายว่าถ้าความถี่สูงขึ้นกี่HZ
จึงจะสั่งวาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่องเพื่อเติมน้ำที่พร่องหายไป
และยังมีคำสั่งอีนๆอีกมากมาย

สายยางเพรสเชอร์
  ถ้ายาวเกินไปก็จะทำให้สายยางหลุดง่าย
เพราะสายยางจะเตะกับถังขณะปั่นแห้ง
  ถ้าสั้นเกินไปก็จะทำให้สายยางหลุดง่าย
เพราะจะถูกกระชากหลุดตอนปั่นแห้งเช่นกัน
ดังนั้นสายยางจะต้องไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไปนั่นเอง

ถ้าสายยางเพรสเชอร์หลุดหรือรั่ว
จะเกิดอาการน้ำล้นถัง และน้ำรั่วใต้ถัง

น้ำล้นถังเพราะไม่มีแรงดันไปที่ตัวเพรสเชอร์
เพื่อกดหน้ายางไดอะแฟรม
ทำให้แกนเฟอร์ไรท์ไม่สามารถสอดเข้าไปในขดลวดได้มากขึ้น
ทำให้ความถี่ที่ตัวเพรสเชอร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ทำให้MCUที่คอยตรวจจับความถี่ที่ตัวเพรสเชอร์
เข้าใจว่าน้ำยังไม่เต็มถัง MCUจึงไม่สั่งหยุดไฟวาล์วน้ำ
ทำให้น้ำไหลเข้าเครื่องตลอดเวลา
และเมื่อวาล์วน้ำทำงานนานจนถึงช่วงเวลาหนึ่ง
ตามที่นักโปรแกรมเมอร์เขียนสั่งงานMCUไว้
ก็จะฟ้องERROR และหยุดการทำงานวาล์วน้ำทันที

การปรับเพรสเชอร์ ที่ตัวเพรสเชอร์จะมีนัทปรับ
ถ้าปรับนัทลงไป น้ำที่ได้จะสูงขึ้น
ถ้าปรับมัทขึ้นมา น้ำที่ได้จะต่ำลง
จำง่ายๆ นัทกับน้ำจะสวนทางกัน

เวลาปรับจะต้องรีเซ็ทถังก่อน
การรีเซ็ทถังคือ การไล่น้ำในถังออกให้หมด
ถ้ามีน้ำในถังให้ทำการกดPOWER กดSPIN กดSTART
ทำการปั่นแห้งเพื่อเดรนน้ำในถังออกให้หมด

จากนั้นทำการปรับนัทไปประมาณ1รอบหรือ60นาที
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด กดSTART
แล้วรอดูน้ำว่าสูงสุดแล้วได้ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
ถ้าไม่ได้ตามที่เราต้องการก็ให้เริ่มต้นใหม่จนได้ระดับน้ำตามที่ต้องการ
เมื่อตั้งเสร็จแล้วให้ใช้ซิลิโคนหรือกาวทาที่นัทเพรสเชอร์เพื่อกันเคลื่อน
เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ

ถ้ามีน้ำในถังจะปรับยาก เพราะการปรับจะเพี้ยนทำให้ปรับยาก
สาเหตุเพราะ
นักโปรแกรมเมอร์จะเขียนคำสั่งเป็นห้องๆไว้
และมีการเปรียบเทียบความถี่ เช่น
ถ้าความถี่มากกว่าให้วาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่อง
ถ้าความถี่น้อยกว่าให้หยุดการทำงานวาล์วน้ำ
และสั่งให้มอเตอร์หมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อทำการซักต่อไปนั่นเอง
และมีคำสั่งพ่วงท้ายว่าถ้าความถี่สูงขึ้นกี่HZ
จึงจะสั่งวาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่องเพื่อเติมน้ำที่พร่องหายไป
และยังมีคำสั่งอีนๆอีกมากมาย

อาการที่1 วาล์วน้ำค้างปล่อยน้ำตลอด
ตรวจสอบโดยการกดPOWER กดSTART
MCU สั่งไฟไปที่วาล์วน้ำ น้ำไหลเข้าเครื่องพอกดPOWERปิดเครื่อง
MCUก็หยุดจ่ายไฟให้วาล์วน้ำ ทำให้น้ำหยุดไหล
แต่ถ้าปล่อยให้วาล์วน้ำทำงานไปนานๆประมาณห้านาที
แล้วกดปุ่มPOWERปิดเครื่อง หรือดึงปลั๊กออก
น้ำก็ยังไหลไม่หยุดเนื่องจากวาล์วน้ำเกิดอาการค้าง
คือไม่สามารถปิดน้ำให้สนิทได้ เนื่องจากสปริงภายในวาล์วน้ำเป็นสนิม
ไม่มีแรงสปริงที่เพียงพอในการกดแผ่นยางนั่นเอง
แก้โดยซื้อวาล์วน้ำมือสอง ราคา50บาทมาเปลี่ยน

อาการที่2 น้ำไหลเข้าเครื่องตลอดไม่ยอมซัก
ตรวจสอบโดยปิดเครื่องหรือดึงปลั๊กไฟออก
จากนั้นตรวจสายยางเพรสเชอร์
ว่าระดับน้ำในสายยางเท่ากับระดับน้ำในถังหรือไม่
หรือดูที่กระบอกแรงดันว่ามีน้ำเต็มกระบอกแรงดันหรือไม่
ปรากฏว่าน้ำอยู่แค่ปากกระบอกแรงดันแสดงว่าสายยางไม่รั่ว
นั่นหมายความว่ามีคนมาปรับเพรสเชอร์แต่ปรับผิดอยู่
เพราะสปริงภายในเพรสเชอร์จะคอยดันนัทออกมาให้สูงขึ้น
ซึ่งจะเกิดอาการน้ำหด
   จากนั้นปรับเพรสเชอร์ให้นัทขึ้นมาประมาณ2รอบหรือ120นาที
คือรอบละ60นาที
จากนั้นเดรนน้ำในถังออกให้หมดด้วยการกดPOWER START SPIN
เป็นการรีเซ็ทถัง ถ้าไม่รีเซ็ทถังจะทำให้การปรับเพี้ยนปรับไม่สำเร็จ
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด กดSTART
ถ้าน้ำยังไม่ได้ตามที่ต้องการก็เริ่มต้นตามขั้นตอนเดิมใหม่
คือถ้าปรับนัทลงไป ได้น้ำสูงขึ้นมา
ถ้าปรับนัทขึ้นมา ได้น้ำต่ำลงไป
  หลังจากปรับเพรสเชอร์เสร็จแล้ว
ให้ใช้ซิลิโคนทาไว้ที่ปรับเพื่อกันเคลื่อน
ถ้าไม่อย่างนั้นเวลาเครื่องปั่นแห้งเพรสเชอร์จะคลายออก
เพราะสปริงภายในเพรสเชอร์จะคอยดันที่ปรับให้สูงขึ้น
ทำให้ได้น้ำหดลง เกิดอาการน้ำหดไม่เต็มถังนั่นเอง

อาการที่3 เก็บน้ำไม่อยู่ขณะซักและเมื่อเดรนน้ำทิ้งน้ำพุ่งออกใต้ถัง
ลูกยางมีตะกรัน ทำความสะอาดลูกยาง
 
อาการที่4 น้ำรั่วหยดใต้ถังเวลาซัก
การหยดตรงที่เวลาถอดออกมาตรงที่สวมเข้ากับถัง
ใช้ซิลิโคนหลอดละ 80บาท
ทาแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ทิ้งไว้ประมาณ1ชม

อาการที่5 น้ำรั่วด้านหลังใกล้กับวาล์วน้ำเข้า ถอดฝาออกมาไม่รั่ว
เป็นเพราะเวลาประกอบฝาบนด้านหลัง
จะทำให้วาล์วน้ำอยู่ในระนาบ ดันพลาสติกที่กั้นน้ำที่แตกจนอ้าออก
ทำให้น้ำพุ่งออกมาเวลาประกอบกับเข้าไป
ใช้ซิลิโคนอุดรอยรั่ว

อาการที่6 เสียงดังเอี๊ยดขณะซัก
สายพานหย่อนประมาณ3.5ซม.
ปรับสายพานให้ตึง เป็น2-3ซม.
เสียงดังเอี๊ยดหายแล้ว

อาการที่7 เสียงดังก๊อกขณะซัก
ถอดจานซักออกมาดูไม่พบสิ่งแปลกปลอม
สันนิษฐานว่าเป็นที่ชุดคลัชท์เป็นสนิม
เนื่องจากน้ำรั่วพุ่งขณะเดรนน้ำทิ้ง

ค่าอะไหล่
วาล์วน้ำมือ2 ราคา50บาท
ซิลิโคน 1หลอด 80บาท
ค่าน้ำมันไปซื้ออะไหล่ 100บาท
ค่าน้ำทดลองซัก 10บาท
รวมเป็นเงิน 240บาท
คิดเงินเพื่อนบ้านไป 500บาท ได้กำไร 260บาท

เชิญดูคลิปวีดีโอประกอบ