วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560

เครื่องซักผ้าHITACHIนํ้าไหลเข้าไม่หยุด HITACHI Water flow over the tank



เครื่องซักผ้าHITACHIนํ้าไหลเข้าไม่หยุด HITACHI Water flow over the tank
28/4/2560 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
เครื่องซักผ้าHITACHIนํ้าไหลเข้าไม่หยุด HITACHI Water flow over the tank

การซ่อมต้องใส่รองเท้า และห้ามเปียกน้ำ
และห้ามมีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
แตะถูกตัวนำไฟฟ้า
เพราะอันตรายอาจถึงชีวิตได้

น้ำไหลเข้าเครื่องไม่หยุดแต่ซักปกติ
ขั้นตอนที่1 ตรวจสอบโดยปิดเครื่องหรือดึงปลั๊กไฟออก
ถ้าน้ำยังไหลเข้าเครื่องไม่หยุดอีก หรือบางครั้งน้ำสามารถหยุดได้
ก็แสดงว่าวาล์วน้ำค้างเนื่องจากสปริงเป็นสนิม
หรือมีอะไรไปอุดที่ยางไดอะแฟรมของวาล์วน้ำ
ทำให้น้ำไหลไม่หยุด
ถอดวาล์วน้ำออกมาซ่อม
ถ้าซ่อมไม่ได้ซื้อวาล์วน้ำมือสองมาเปลี่ยนราคา50บาท
ถ้าปิดเครื่องแล้วน้ำหยุดไหลได้แน่นอน ก็ไปขั้นตอนที่2

ขั้นตอนที่2 เอามิเตอร์วัดไฟที่วาล์วน้ำเข้าขณะซักอยู่
มอเตอร์หมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อทำการซัก
(ถ้าได้0VAC ก็แสดงว่า สายไฟวาล์วน้ำขาด)
ถ้าได้ประมาณ1.2VAC ก็แสดงว่า วาล์วน้ำค้างทำให้น้ำไหลไม่หยุด
ถ้าได้ประมาณ220VAC ก็แสดงว่า บอร์ดเสีย
คือบอร์ดสั่งไฟ220VACมาให้วาล์วน้ำตลอดเวลาทำให้น้ำไหลไม่หยุด
ให้ไล่สายสีเหลืองจากวาล์วน้ำเข้าไปที่แผงบอร์ดควบคุม
สายสีเหลืองจะต่ออยู่กับขาT2ของไตรแอกวาล์วน้ำ
ให้ใช้หัวแร้งเจาะบอร์ดแล้วถอดไตรแอกออกมา
ลองวัดที่ขาT2กับT1ถ้าได้โอมห์ต่ำ
แสดงว่าไตรแอกช็อท ทำการเปลี่ยนไตรแอกก็จะสามารถใช้งานได้
แต่ถ้าใช้มิเตอร์เข็มตั้งย่านX10Kวัดที่ขาT2กับT1เข็มไม่ขึ้น
สลับสายวัดก็ไม่ขึ้น
ก็แสดงว่าไตรแอกดีไม่รั่วไม่ช็อท
ถ้าไตรแอกดีก็จะต้องไล่สัญญาณทริกที่ขาGATEของไตรแอก
ว่ามีการชอทที่จุดใด
จึงทำให้มีไฟมาทริกที่ขาGATEของไตรแอกตลอดเวลา
ก็จะพบตัวเสียที่ชอทได้นั่นเอง
อาการนี้ จะเป็นทันทีที่เรากดปุ่มPOWERเพื่อเปิดเครื่อง

คลิปที่เกี่ยวข้อง
















น้ำไหลเข้าเครื่องตลอดไม่ยอมซัก
ตรวจสอบโดยปิดเครื่องหรือดึงปลั๊กไฟออก
จากนั้นตรวจสายยางเพรสเชอร์
ว่าระดับน้ำในสายยางเท่ากับระดับน้ำในถังหรือไม่
หรือดูที่กระบอกแรงดันว่ามีน้ำเต็มกระบอกแรงดันหรือไม่
ปรากฏว่าน้ำอยู่แค่ปากกระบอกแรงดันแสดงว่าสายยางไม่รั่ว
นั่นหมายความว่ามีคนมาปรับเพรสเชอร์แต่ปรับผิดอยู่
เพราะสปริงภายในเพรสเชอร์จะคอยดันนัทออกมาให้สูงขึ้น
ซึ่งจะเกิดอาการน้ำหด ไม่ใช่อาการน้ำล้น
   จากนั้นปรับเพรสเชอร์ให้นัทขึ้นมาประมาณ2รอบหรือ120นาที
คือรอบละ60นาที
จากนั้นเดรนน้ำในถังออกให้หมดด้วยการกดPOWER SPIN START
เป็นการรีเซ็ทถัง ถ้าไม่รีเซ็ทถังจะทำให้การปรับเพี้ยนปรับไม่สำเร็จ
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด กดSTART
น้ำสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ43นาที
ถ้าน้ำยังไม่ได้ตามที่ต้องการก็เริ่มต้นตามขั้นตอนเดิมใหม่
คือถ้าปรับนัทลงไป จะได้น้ำสูงขึ้นมา
ถ้าปรับนัทขึ้นมา จะได้น้ำต่ำลงไป
นัทกับน้ำจะสวนทางกัน
หรือนัทกับความถี่ของตัวเพรสเชอร์จะสวนทางกันนั่นเอง
  หลังจากปรับเพรสเชอร์เสร็จแล้ว
ให้ใช้ซิลิโคนทาไว้ที่ปรับเพื่อกันเคลื่อน
ถ้าไม่อย่างนั้นเวลาเครื่องปั่นแห้งเพรสเชอร์จะคลายออก
เพราะสปริงภายในเพรสเชอร์จะคอยดันที่ปรับให้สูงขึ้น
ทำให้ได้น้ำหดลง เกิดอาการน้ำหดไม่เต็มถังนั่นเอง
ส่วนอาการน้ำล้นคือมีคนมาปรับเล่นหรือปรับไม่ถูกนั่นเอง

ถ้าปรับไม่ได้ซื้อเพรสเชอร์มือสองมาเปลี่ยนราคา 50บาท

แต่ถ้าสายยางรั่ว สามารถซื้อสายยางจากร้านตู้ปลาหรือร้านวัสดุก่อสร้าง
มาใส่แทนได้เลยครับ
ถ้าใส่สายยางแล้วยังรั่วอีกก็แสดงว่ายางไดอะแฟรมภายในเพรสเชอร์รั่ว
ซึ่งเป็นไปได้ยากมากครับ
เพราะแรงดันของน้ำไม่แรงพอที่จะทำให้มันเสียหายนั่นเอง

ถ้าน้ำไหลเข้าไม่หยุดและไม่ซักนานประมาณครึ่งชั่วโมง
หรือ1ชั่วโมงก็จะมีเสียงร้องติ๊ดๆ ขึ้นE1 นั่นเอง

คลิกติดตาม คลิกแชร์ ขอบคุณครับ

คลิปวีดีโอที่เกี่ยวข้อง

























ไม่มีความคิดเห็น: