วันจันทร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2560

ปั๊มนํ้าไม่ทำงาน Water pump dead set



ปั๊มนํ้าไม่ทำงาน Water pump dead set
17/4/2560 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
ปั๊มนํ้าไม่ทำงาน Water pump dead set

การซ่อมต้องใส่รองเท้า และห้ามเปียกน้ำ
เพราะอันตรายอาจถึงชึวิตได้

ปั๊มน้ำไม่ทำงาน และไม่มีเสียงการทำงานของมอเตอร์
คืออาการเงียบสนิทเหมือนสายไฟขาด

ในกรณีนี้เป็นที่เพรสเชอร์สวิทช์เสีย
ในลักษณะขาดนั่นเอง

การทำงานของเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อมีแรงดันต่ำกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์จะต่อกัน
เมื่อมีแรงดันสูงกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์ก็จะจากออกจากกัน

ถอดปลั๊กไฟออกก่อน
จากนั้นเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหล1จุด
เพื่อลดแรงดันในถังปั๊มน้ำ เพื่อให้สวิทช์ในเพรสเชอร์ต่อกัน
จากนั้นใช้มิเตอร์ตั้งย่านโอมห์
วัดที่สายเพรสเชอร์สวิทช์
ปรากฏว่าวัดไม่ขึ้นแสดงว่าเสียแล้ว
ถ้าเพรสเชอร์สวิทช์ดีจะต้องวัดขึ้นประมาณ0โอมห์

ปิดวาล์วน้ำมิเตอร์ด้านนอก
ถอดเพรสเชอร์สวิทช์ออกแล้ว
ไปซื้อ มิตซูของแท้ราคา550บาท

เพรสเชอร์สวิทช์ของเดิม
OFF 1.9KG/CM2(ตัดสวิทช์ที่แรงดันถัง1.9กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)
ON 1.3KG/CM2(ต๋ฮสวิทช์ที่แรงดันถัง1.3กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)

แต่ซื้อมาปรากฏว่า OFF 1.9KG/CM2 เท่ากัน
แต่ ON 1.4KG/CM2 มากกว่า0.1KG/CM2 ทางร้านบอกใช้ได้
ครับ

พอเปลี่ยนกลับเข้าไปมีอาการปั๊มตัดรัว
ถอดปลั๊กออกแล้วปิดวาล์วน้ำที่มิเตอร์ด้านนอก
แล้วเปิดจุกข้างถังออกเพื่อปล่อยน้ำออกจนเกือบหมด

จากนั้นปิดจุกเข้าไป
แล้วเสียบปลั๊กไฟเข้าไป แล้วเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้1จุด
จากนั้นเปิดวาล์วมิเตอร์ด้านนอก
การเปิดวาล์วมิเตอร์ของผมเปิดอยู่ที่1.25รอบ
จะได้น้ำความแรงสูงสุดและนิ่ง คือปั๊มไม่ตัดรัว

การปรับวาล์วมิเตอร์
ขึ้นอยู่กับสถานที่ว่าน้ำจ่ายมาจากประปาแรงแค่ไหน

การปรับวาล์วน้ำมิเตอร์ด้านนอก
จะเป็นการปรับส่วนผสมของอากาศและน้ำ
ที่เข้ามายังถังปั๊มน้ำขณะมอเตอร์ทำงาน
หมายความว่า
ถ้าน้ำในถังปั๊มน้ำมีมากก็จะทำให้เกิดอาการปั๊มตัดรัว
ถ้าน้ำในถังปั๊มน้ำมีน้อยก็จะทำให้เกิดอาการปั๊มไม่ตัด

การทำงานของเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อมีแรงดันต่ำกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์จะต่อกัน
เมื่อมีแรงดันสูงกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์ก็จะจากออกจากกัน

ถอดปลั๊กไฟออกก่อน
จากนั้นเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหล1จุด
เพื่อลดแรงดันในถังปั๊มน้ำ เพื่อให้สวิทช์ในเพรสเชอร์ต่อกัน
จากนั้นใช้มิเตอร์เข็มตั้งย่านX1 แล้วซีโร่โอมห์
วัดที่สายเพรสเชอร์สวิทช์
ถ้าเข็มขึ้นประมาณ0โอมห์ก็แสดงว่าเพรสเชอร์สวิทช์ดี
แต่ถ้าเข็มไม่ขึ้นแสดงว่าเพรสเชอร์สวิทช์เสียแล้ว

ที่ตัวเพรสเชอร์สวิทช์จะมีค่าบอกไว้ดังนี้
OFF 1.9KG/CM2(ตัดสวิทช์ที่แรงดันถัง1.9กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)
ON 1.3KG/CM2(ต๋ฮสวิทช์ที่แรงดันถัง1.3กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)

การทำงานของเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อมีแรงดันต่ำกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์จะต่อกัน
เมื่อมีแรงดันสูงกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์ก็จะจากออกจากกัน

ถอดปลั๊กไฟออกก่อน
จากนั้นเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหล1จุด
เพื่อลดแรงดันในถังปั๊มน้ำ เพื่อให้สวิทช์ในเพรสเชอร์ต่อกัน
จากนั้นใช้มิเตอร์ดิจิตอลตั้งย่านโอมห์
วัดที่สายเพรสเชอร์สวิทช์
ถ้าเข็มขึ้นประมาณ0โอมห์ก็แสดงว่าเพรสเชอร์สวิทช์ดี
แต่ถ้าเข็มไม่ขึ้นแสดงว่าเพรสเชอร์สวิทช์เสียแล้ว

ที่ตัวเพรสเชอร์สวิทช์จะมีค่าบอกไว้ดังนี้
OFF 1.9KG/CM2(ตัดสวิทช์ที่แรงดันถัง1.9กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)
ON 1.3KG/CM2(ต๋ฮสวิทช์ที่แรงดันถัง1.3กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)

มอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155Nจะมีสายไฟ3เส้น
1.สายสีดำอยู่ตรงกลาง เรียกว่าสายคอมม่อนหรือสายตรง
คือสายไฟACที่เข้ามาตรงๆโดยไม่ผ่านสวิทช์นั่นเอง
2.สายสีแดงคือสายมอเตอร์หลัก
คือสายไฟACอีกเส้นที่ผ่านเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อถังปั๊มน้ำมีแรงดันต่ำ(มีการใช้น้ำ)
เพรสเชอร์สวิทช์ก็จะต่อไฟACเข้ามาที่สายสีแดง(มอเตอร์หลัก)
เมื่อถังปั๊มน้ำมีแรงดันสูง(ไม่มีการใช้น้ำ)
เพรสเชอร์สวิทช์ก็จะตัดไฟAC สายสีแดง(มอเตอร์หลัก)ก็จะไม่มีไฟ
3.สายสีน้ำตาลคือสายสตาร์ท
สายสตาร์ทจะทำงานร่วมกับCค่า6UF/400V
เพื่อสร้างแรงไฟเพิ่มขึ้นอีก1เท่าตัวคือจาก220ACVเป็น440ACV
เพื่อฉุดให้มอเตอร์หมุนได้
การต่อCจะไม่ต่อกับสายสีดำหรือสายตรง(สายคอมม่อน)
คือในที่นี้จะต่อกับสายสีแดงกับสีน้ำตาลของมอเตอร์นั่นเอง

มอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155Nจะมีขดลวด2ขด
1.ขดลวดมอเตอร์หลัก
2.ขดลวดสตาร์ท

การวัดโอมห์ต้องดึงปลั๊กไฟออกก่อน
ใช้มิเตอร์เข็มตั้งย่านX1 แล้วซีโร่โอมห์
วัดขดลวดมอเตอร์หลัก สายสีดำกับสีแดง ได้ 19 โอมห์
วัดขดลวดสตาร์ท สายสีดำกับสีน้ำตาล ได้ 47 โอมห์
วัด2ขดรวมกัน สายสีแดงกับสีน้ำตาล ได้ 66 โอมห์

การวัดไฟมอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155N
เสียบไฟ แล้วเปิดน้ำไว้1หรือ2จุดเพื่อให้ปั๊มน้ำไม่ตัด
เพื่อการวัดไฟที่ง่ายขึ้น
มิเตอร์เข็มตั้งย่าน 1000 ACV
วัดขดลวดมอเตอร์หลัก สายสีดำกับสีแดง ได้ 230 ACV
วัดขดลวดสตาร์ท สายสีดำกับสีน้ำตาล ได้ 290 ACV
วัด2ขดรวมกัน(วัดคร่อมC) สายสีแดงกับสีน้ำตาล ได้ 380 ACV
สาเหตุที่ได้380ACV เพราะมีโหลด(ทำงาน)นั่นเอง

ถ้าวัดมอเตอร์ปั๊มน้ำได้ดังนี้ก็แสดงว่าทุกอย่างดี

CAPACITORในที่นี้ผมขอเรียกย่อๆว่าC หรือแคป

ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155N
ใช้CAPACITOR ค่า 6UF/400VAC
Cตัวนี้จะทำหน้าที่เก็บประจุและคลายประจุ
เนื่องจากไฟบ้านในประเทศไทยใช้220VAC/50HZ
ดังนั้นจึงเก็บประจุ50ครั้งและคลายประจุ50ครั้งภายใน1วินาที
ตามความถี่50HZ
ขณะที่Cเก็บประจุ Cจะมีไฟ220ACV
ขณะที่Cคลายประจุ Cจะมีไฟเพิ่มเป็น2เท่าคือ 440ACV
ทำให้เกิดแรงฉุดมอเตอร์ให้หมุนได้
ถ้าCแห้งมอเตอร์ก็จะไม่หมุนมีแต่เสียงตืดนั่นเอง

การทำงานของเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อมีแรงดันต่ำกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์จะต่อกัน
เมื่อมีแรงดันสูงกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์ก็จะจากออกจากกัน

มอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155Nจะมีสายไฟ3เส้น
1.สายสีดำอยู่ตรงกลาง เรียกว่าสายคอมม่อนหรือสายตรง
คือสายไฟACที่เข้ามาตรงๆโดยไม่ผ่านสวิทช์นั่นเอง
2.สายสีแดงคือสายมอเตอร์หลัก
คือสายไฟACอีกเส้นที่ผ่านเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อถังปั๊มน้ำมีแรงดันต่ำ(มีการใช้น้ำ)
เพรสเชอร์สวิทช์ก็จะต่อไฟACเข้ามาที่สายสีแดง(มอเตอร์หลัก)
เมื่อถังปั๊มน้ำมีแรงดันสูง(ไม่มีการใช้น้ำ)
เพรสเชอร์สวิทช์ก็จะตัดไฟAC สายสีแดง(มอเตอร์หลัก)ก็จะไม่มีไฟ
3.สายสีน้ำตาลคือสายสตาร์ท
สายสตาร์ทจะทำงานร่วมกับCค่า6UF/400V
เพื่อสร้างแรงไฟเพิ่มขึ้นอีก1เท่าตัวคือจาก220ACVเป็น440ACV
เพื่อฉุดให้มอเตอร์หมุนได้
การต่อCจะไม่ต่อกับสายสีดำหรือสายตรง(สายคอมม่อน)
คือในที่นี้จะต่อกับสายสีแดงกับสีน้ำตาลของมอเตอร์นั่นเอง

มอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155Nจะมีขดลวด2ขด
1.ขดลวดมอเตอร์หลัก
2.ขดลวดสตาร์ท

การวัดโอมห์ต้องดึงปลั๊กไฟออกก่อน
ใช้มิเตอร์ดิจิตอลตั้งย่านโอมห์
วัดขดลวดมอเตอร์หลัก สายสีดำกับสีแดง ได้ 18.8 โอมห์
วัดขดลวดสตาร์ท สายสีดำกับสีน้ำตาล ได้ 45.7 โอมห์
วัด2ขดรวมกัน สายสีแดงกับสีน้ำตาล ได้ 63.9 โอมห์

การวัดไฟมอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155N
เสียบไฟ แล้วเปิดน้ำไว้1หรือ2จุดเพื่อให้ปั๊มน้ำไม่ตัด
เพื่อการวัดไฟที่ง่ายขึ้น
มิเตอร์ดิจิตอลตั้งย่าน ACV
วัดขดลวดมอเตอร์หลัก สายสีดำกับสีแดง ได้ 233 ACV
วัดขดลวดสตาร์ท สายสีดำกับสีน้ำตาล ได้ 293 ACV
วัด2ขดรวมกัน(วัดคร่อมC) สายสีแดงกับสีน้ำตาล ได้ 385 ACV
สาเหตุที่ได้385ACV เพราะมีโหลด(ทำงาน)นั่นเอง

ถ้าวัดมอเตอร์ปั๊มน้ำได้ดังนี้ก็แสดงว่าทุกอย่างดี

CAPACITORในที่นี้ผมขอเรียกย่อๆว่าC หรือแคป

ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155N
ใช้CAPACITOR ค่า 6UF/400VAC
Cตัวนี้จะทำหน้าที่เก็บประจุและคลายประจุ
เนื่องจากไฟบ้านในประเทศไทยใช้220VAC/50HZ
ดังนั้นจึงเก็บประจุ50ครั้งและคลายประจุ50ครั้งภายใน1วินาที
ตามความถี่50HZ
ขณะที่Cเก็บประจุ Cจะมีไฟ220ACV
ขณะที่Cคลายประจุ Cจะมีไฟเพิ่มเป็น2เท่าคือ 440ACV
ทำให้เกิดแรงฉุดมอเตอร์ให้หมุนได้
ถ้าCแห้งมอเตอร์ก็จะไม่หมุนมีแต่เสียงตืดนั่นเอง

การทำงานของเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อมีแรงดันต่ำกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์จะต่อกัน
เมื่อมีแรงดันสูงกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์ก็จะจากออกจากกัน

ปั๊มน้ำตัดรัว เวลาเปิดก๊อกน้ำ น้ำจะกระชากตามการตัดของปั๊ม
สาเหตุเกิดจากส่วนผสมของน้ำและอากาศไม่เหมาะสม
ถ้าน้ำในถังปั๊มน้ำมากเกินไปก็จะทำให้เกิดอาการปั๊มตัดรัว
ถ้าอากาศในถังปั๊มน้ำมากเกินไป ก็จะทำให้ปั๊มไม่ตัด

การแก้ไขไม่ควรไปปรับที่ตัวเพรสเชอร์สวิทช์
เพราะทางบริษัทได้ออกแบบมาดีที่สุดแล้ว

การปรับให้ถอดปลั๊กออกแล้วปิดวาล์วน้ำที่มิเตอร์ด้านนอก
แล้วเปิดจุกข้างถังปั๊มน้ำออกเพื่อปล่อยน้ำออกจนเกือบหมด

จากนั้นปิดจุกเข้าไป
แล้วเสียบปลั๊กไฟเข้าไป แล้วเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้1จุด
จากนั้นเปิดวาล์วมิเตอร์ด้านนอก
การเปิดวาล์วมิเตอร์ของผมเปิดอยู่ที่1.25รอบ
จะได้น้ำความแรงสูงสุดและนิ่ง คือปั๊มไม่ตัดรัว
การปรับอาจต้องปรับหลายครั้งและหลายวัน
ต้องอาศัยความใจเย็นหน่อยครับ
เมื่อทำได้แล้วควรหาอะไรมาพันหรือทำตำหนิ
ว่าปรับไว้ที่ตำแหน่งใดจึงจะเหมาะสม

การปรับวาล์วมิเตอร์
ขึ้นอยู่กับสถานที่ว่าน้ำจ่ายมาจากประปาแรงแค่ไหน

การปรับวาล์วน้ำมิเตอร์ด้านนอก
จะเป็นการปรับส่วนผสมของอากาศและน้ำ
ที่เข้ามายังถังปั๊มน้ำขณะมอเตอร์ทำงาน
หมายความว่า
ถ้าน้ำในถังปั๊มน้ำมีมากก็จะทำให้เกิดอาการปั๊มตัดรัว
ถ้าน้ำในถังปั๊มน้ำมีน้อยก็จะทำให้เกิดอาการปั๊มไม่ตัด

เชิญชมวีดีโอประกอบครับ




2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ผมวัดโอมมอเคอร์ขด run ได้ 3 M กว่าแสดงว่ามอเตอร์เสียเปล่าครับ
และแก้ยังไงครับ

somMCU กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ