เหรียญร9พศ2543
50ปีบรมราชาภิเษกเนื้อทองแดง2000KING RAMA9 50YEARS
OF CORONATION COPPER COIN
17/12/2559 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
เหรียญร9พศ2543
50ปีบรมราชาภิเษกเนื้อทองแดง2000KING RAMA9 50YEARS
OF CORONATION COPPER COIN
14 ธค. 2559
14 Dec. 2016
ราคาซื้อขาย 9,000บาท + ค่าส่ง ฟรี = 9,000บาท
Price US $ 250 + Shipping FREE = US
$ 250
รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี
เสด็จสู่พระราชสมบัติตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน
2489
เป็นพระมหากษัตริย์ไทยผู้เสวยราชย์ยาวนานที่สุด
วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493 บรมราชาภิเษก
เหรียญที่ระลึกครบ 50 ปี ราชาภิเษกสมรส และ
เหรียญที่ระลึกครบ 50 ปี บรมราชาภิเษก
เนื่องจากเดือนเมษายน และเดือนพฤษภาคม
เป็นช่วงระยะเวลาที่ในอดีตเคยได้มีเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้น
ซึ่งเป็นมหามงคลสมัยที่ปวงพสกนิกรชาวไทยปลื้มปิติโสมนัสกันทั่วทั้งแผ่นดิน
นั่นคือ ในเดือนเมษายน เมื่อวันที่ 28 เมษายน
พุทธศักราช 2493
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช
และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ได้ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้น
และเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้น
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทั้งสอง
พระองค์ทรงปฏิบัติ
พระกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
จึงขอนำบทความเรื่องเหรียญที่ระลึกครบ 50 ปี
ราชาภิเษกสมรส
และเหรียญที่ระลึกครบ 50 ปี บรมราชาภิเษก
ซึ่งเป็นเหรียญที่ระลึกที่กรมธนารักษ์
กระทรวงการคลัง
ได้รับพระบรมราชานุญาตให้จัดขึ้นในปี พ.ศ.
2543
อันเป็นโอกาสครบรอบ 50 ปี
แห่งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
และราชาภิเษกสมรสไว้ ณ โอกาสนี้
ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ประทับศึกษาอยู่ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ทรงพบกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร
ธิดาในพระวรวงศ์เธอกรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ
(พระนามเดิม หม่อมเจ้านักขัตรมงคลกิติยากร)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้สถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็นพระองค์เจ้านักขัตรมงคล
เมื่อพุทธศักราช 2493
และในพุทธศักราช 2495 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สถาปนาขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม
มีพระนามว่า
พระวรวงศ์เธอกรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ
และหม่อมหลวงบัว (สนิทวงศ์) กิติยากร
ต่อมาในวันที่ 19 กรกฎาคม 2492
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์
กิติยากร
ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จนิวัติพระนครในปีพุทธศักราช 2493
ในวันที่ 28 เมษายน ของปีนั้น
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้น
ณ พระตำหนักสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี
พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
ในวังสระปทุม ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร
ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ด้วย
วันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามแบบอย่างโบราณราชประเพณีขึ้น
ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณในพระบรมมหาราชวัง
เฉลิมพระบรมนามาภิไธยตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช
มหิตลาธิ เบศรรามาธิบดี
จักรีนฤบดินทรสยามมินทราธิราชบรมนาถบพิตร
พร้อมทั้งพระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า
"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม
เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
ในโอกาสนี้ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
สถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์
ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินี
หลังจากเสร็จการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว
ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงรักษาสุขภาพ
และทรงศึกษาวิชาต่อ
ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ระหว่างประทับรักษาพระองค์อยู่นั้น
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี
มีพระสูติกาลพระราชธิดาพระองค์แรกคือ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตน ราชกัญญา
สิริวัฒนาพรรณวดี
หลังจากพระเจ้าลูกเธอพระองค์แรกเจริญพระชันษาได้
6 เดือน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินี
ได้เสด็จนิวัติกลับพระนคร ประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
พระราชวังดุสิต หลังจากนั้นทรงย้ายไปประทับ
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ณ พระที่นั่งนี้
ทรงมีพระประสูติกาลพระราชโอรสพระราชธิดาอีกสามพระองค์ คือ
- สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร
- สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
วันที่ 22 ตุลาคม พุทธศักราช 2499
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกทรงผนวช
ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ในพระบรมมหาราชวัง
ในการนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี
ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลาผนวช
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ในปีเดียวกันนั้นเอง
ในปีพุทธศักราช 2500
ทรงย้ายที่ประทับจากพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต
ไปประทับที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
พระราชวังดุสิต ตราบจนปัจจุบัน
นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จดำรงสิริราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์
พระองค์ที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
ตามที่ทรงตั้งพระราชปณิธานไว้
ทรงอุทิศพระองค์เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขตลอดพระราชอาณาจักร
ก่อให้เกิดโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากมายเหลือคณานับ
ทั้งนี้มีพระราชประสงค์เพื่อให้เกิดประโยชน์สุข
และความเจริญรุ่งเรืองเป็นปึกแผ่นของพสกนิกรและประเทศชาติ
เช่นเดียวกับสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ
ทรงประกอบพระราชกรณียกิจร่วมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาโดยตลอด
ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถในระบอบประชาธิปไตยโดยแท้จริง
ทรงเป็นคู่พระบารมี
ทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขร่วมแบ่งเบาพระราชภาระ
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งสองพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์และพระบรมราชินีนาถ
ผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ
เปี่ยมล้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงอาณาประชาราษฎร์อันหาที่สุดมิได้
ดังนั้นเพื่อการเทิดพระเกียรติ
และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสองพระองค์
กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง
จึงจัดทำเหรียญที่ระลึกครบ 50 ปี
ราชาภิเษกสมรส
และเหรียญที่ระลึกครบ 50 ปี บรมราชาภิเษกขึ้น
มีรายละเอียดดังนี้
เหรียญที่ระลึกครบ 50 ปี ราชาภิเษกสมรส
ผลิต 4 ชนิด บรรจุพร้อมกล่องและใบรับรอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น