วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ย่านX10K มีโวลท์และกระแสเท่าไร มิเตอร์เข็ม Range X10K How much volt amp Analog multimeter










ย่านX10K มีโวลท์และกระแสเท่าไร มิเตอร์เข็ม Range X10K How much volt amp Analog multimeter
31/10/2560 SONGCHAI  PRAPATRUNGSEE
ย่านX10K มีโวลท์และกระแสเท่าไร มิเตอร์เข็ม Range X10K How much volt amp Analog multimeter

ย่านX10K มี 12V   60uA



วัด นํ้าประปา นํ้าอัดลม มีค่าความต้านทานเท่าไร กี่โอมห์ How much resistance in water










วัด นํ้าประปา นํ้าอัดลม มีค่าความต้านทานเท่าไร กี่โอมห์ How much resistance in water
31/10/2560 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
วัด นํ้าประปา นํ้าอัดลม มีค่าความต้านทานเท่าไร กี่โอมห์ How much resistance in water

น้ำมีค่าความต้านทาน
วัดได้ประมาณ ตั้งแต่1K จนถึง500K
ขึ้นอยู่กับกระแสไฟ ระยะทางและความลึกของน้ำ
คือ ยิ่งกระแสไฟมาก ยิ่งความต้านทานต่ำ
ยิ่งระยะทางใกล้ ความต้านทานก็ยิ่งต่ำ
ยิ่งน้ำลึก ยิ่งความต้านทานต่ำ

วัดจากน้ำประปา ใส่ถ้วยน้ำประมาณ4ซม.
ย่าน X10K
แตะผิวน้ำ ปลายโพรบชิดกันที่สุดคือ1มม. ได้ 50ดิจิตอลได้240K
ลึก1มม. ได้35K                         ดิจิตอลได้170K
ลึก1ซม. -----                            ดิจิตอลได้140K
ลึก3ซม. ได้25K                         ดิจิตอลได้19K
ลึก4ซม. -----                            ดิจิตอลได้12K

ย่าน X1K
แตะผิวน้ำ ปลายโพรบชิดกันที่สุดคือ1มม. ได้ 50K
ลึก1มม. ได้30K
ลึก3ซม. ได้13K

ย่าน X100
แตะผิวน้ำ ปลายโพรบชิดกันที่สุดคือ1มม. ได้ 50K
ลึก1มม. ได้20K
ลึก3ซม. ได้3K

ย่าน X1
แตะผิวน้ำ ปลายโพรบชิดกันที่สุดคือ1มม. เข็มไม่ขึ้น
ลึก4ซม. ได้1K

น้ำหยดลงพลาสติก1หยด แล้ววัด
วัดจากน้ำประปา
ย่าน X10K
ปลายโพรบชิดกันที่สุดคือ1มม. ได้ 25K ดิจิตอลได้ 57K
ปลายโพรบห่างกัน2มม. ได้ 26K     ดิจิตอลได้ 63K
ปลายโพรบห่างกัน1ซม. ได้ 60K    ดิจิตอลได้ 55K-100Kสวิง

ย่าน X1K
ปลายโพรบชิดกันที่สุดคือ1มม. ได้ 20K
ปลายโพรบชิดกันที่2มม. ได้ 22K
ปลายโพรบห่างกัน1ซม. ได้ 46K   

ย่าน X100
ปลายโพรบชิดกันที่สุดคือ1มม. ได้ 10K
ปลายโพรบห่างกัน1ซม. ได้ 45K   

ย่าน X1
ปลายโพรบชิดกันที่สุดคือ1มม. ได้ ค่าอนันต์ คือมากกว่า2K
ปลายโพรบห่างกัน1ซม. เข็มไม่ขึ้น   

น้ำอัดลม 1หยด
ย่าน X10K                                          
ปลายโพรบชิดกันที่สุดคือ1มม. ได้ 35K   ดิจิตอลได้ 48K
ปลายโพรบห่างกัน2มม. ได้ 37K       ดิจิตอลได้ 51K
ปลายโพรบห่างกัน1ซม. ได้ 57K       ดิจิตอลได้ 55K - 65K

สรุป น้ำประปา มีค่าโอมห์สูงกว่า น้ำอัดลมแบบไร้น้ำตาล
เล็กน้อย หรือใกล้เคียงกัน




วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560

วัดมอเตอร์ ขาด ช็อทข้ามขด วัดเพรสเชอร์ ปั๊มตัดรัวปรับวาล์วไม่ต้องปรับเพรสเชอร์ ปั๊มนํ้าไม่ทำงาน










วัดมอเตอร์ ขาด ช็อทข้ามขด วัดเพรสเชอร์ ปั๊มตัดรัวปรับวาล์วไม่ต้องปรับเพรสเชอร์ ปั๊มนํ้าไม่ทำงาน
30/10/2560 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
วัดมอเตอร์ ขาด ช็อทข้ามขด วัดเพรสเชอร์ ปั๊มตัดรัวปรับวาล์วไม่ต้องปรับเพรสเชอร์ ปั๊มนํ้าไม่ทำงาน

การซ่อมต้องใส่รองเท้า และห้ามเปียกน้ำ
เพราะอันตรายอาจถึงชึวิตได้

ปั๊มน้ำไม่ทำงาน และไม่มีเสียงการทำงานของมอเตอร์
คืออาการเงียบสนิทเหมือนสายไฟขาด

ในกรณีนี้เป็นที่เพรสเชอร์สวิทช์เสีย
ในลักษณะขาดนั่นเอง

การทำงานของเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อมีแรงดันต่ำกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์จะต่อกัน
เมื่อมีแรงดันสูงกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์ก็จะจากออกจากกัน

ถอดปลั๊กไฟออกก่อน
จากนั้นเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหล1จุด
เพื่อลดแรงดันในถังปั๊มน้ำ เพื่อให้สวิทช์ในเพรสเชอร์ต่อกัน
จากนั้นใช้มิเตอร์ตั้งย่านโอมห์
วัดที่สายเพรสเชอร์สวิทช์
ปรากฏว่าวัดไม่ขึ้นแสดงว่าเสียแล้ว
ถ้าเพรสเชอร์สวิทช์ดีจะต้องวัดขึ้นประมาณ0โอมห์

ปิดวาล์วน้ำมิเตอร์ด้านนอก
ถอดเพรสเชอร์สวิทช์ออกแล้ว
ไปซื้อ มิตซูของแท้ราคา550บาท

เพรสเชอร์สวิทช์ของเดิม
OFF 1.9KG/CM2(ตัดสวิทช์ที่แรงดันถัง1.9กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)
ON 1.3KG/CM2(ต๋ฮสวิทช์ที่แรงดันถัง1.3กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)

แต่ซื้อมาปรากฏว่า OFF 1.9KG/CM2 เท่ากัน
แต่ ON 1.4KG/CM2 มากกว่า0.1KG/CM2 ทางร้านบอกใช้ได้
ครับ

พอเปลี่ยนกลับเข้าไปมีอาการปั๊มตัดรัว
ถอดปลั๊กออกแล้วปิดวาล์วน้ำที่มิเตอร์ด้านนอก
แล้วเปิดจุกข้างถังออกเพื่อปล่อยน้ำออกจนเกือบหมด

จากนั้นปิดจุกเข้าไป
แล้วเสียบปลั๊กไฟเข้าไป แล้วเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้1จุด
จากนั้นเปิดวาล์วมิเตอร์ด้านนอก
การเปิดวาล์วมิเตอร์ของผมเปิดอยู่ที่1.25รอบ
จะได้น้ำความแรงสูงสุดและนิ่ง คือปั๊มไม่ตัดรัว

การปรับวาล์วมิเตอร์
ขึ้นอยู่กับสถานที่ว่าน้ำจ่ายมาจากประปาแรงแค่ไหน

การปรับวาล์วน้ำมิเตอร์ด้านนอก
จะเป็นการปรับส่วนผสมของอากาศและน้ำ
ที่เข้ามายังถังปั๊มน้ำขณะมอเตอร์ทำงาน
หมายความว่า
ถ้าน้ำในถังปั๊มน้ำมีมากก็จะทำให้เกิดอาการปั๊มตัดรัว
ถ้าน้ำในถังปั๊มน้ำมีน้อยก็จะทำให้เกิดอาการปั๊มไม่ตัด

การทำงานของเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อมีแรงดันต่ำกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์จะต่อกัน
เมื่อมีแรงดันสูงกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์ก็จะจากออกจากกัน

ถอดปลั๊กไฟออกก่อน
จากนั้นเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหล1จุด
เพื่อลดแรงดันในถังปั๊มน้ำ เพื่อให้สวิทช์ในเพรสเชอร์ต่อกัน
จากนั้นใช้มิเตอร์เข็มตั้งย่านX1 แล้วซีโร่โอมห์
วัดที่สายเพรสเชอร์สวิทช์
ถ้าเข็มขึ้นประมาณ0โอมห์ก็แสดงว่าเพรสเชอร์สวิทช์ดี
แต่ถ้าเข็มไม่ขึ้นแสดงว่าเพรสเชอร์สวิทช์เสียแล้ว

ที่ตัวเพรสเชอร์สวิทช์จะมีค่าบอกไว้ดังนี้
OFF 1.9KG/CM2(ตัดสวิทช์ที่แรงดันถัง1.9กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)
ON 1.3KG/CM2(ต๋ฮสวิทช์ที่แรงดันถัง1.3กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)

การทำงานของเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อมีแรงดันต่ำกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์จะต่อกัน
เมื่อมีแรงดันสูงกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์ก็จะจากออกจากกัน

ถอดปลั๊กไฟออกก่อน
จากนั้นเปิดก๊อกน้ำให้น้ำไหล1จุด
เพื่อลดแรงดันในถังปั๊มน้ำ เพื่อให้สวิทช์ในเพรสเชอร์ต่อกัน
จากนั้นใช้มิเตอร์ดิจิตอลตั้งย่านโอมห์
วัดที่สายเพรสเชอร์สวิทช์
ถ้าเข็มขึ้นประมาณ0โอมห์ก็แสดงว่าเพรสเชอร์สวิทช์ดี
แต่ถ้าเข็มไม่ขึ้นแสดงว่าเพรสเชอร์สวิทช์เสียแล้ว

ที่ตัวเพรสเชอร์สวิทช์จะมีค่าบอกไว้ดังนี้
OFF 1.9KG/CM2(ตัดสวิทช์ที่แรงดันถัง1.9กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)
ON 1.3KG/CM2(ต๋ฮสวิทช์ที่แรงดันถัง1.3กิโลกรัมต่อตาราง
ซม)

มอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155Nจะมีสายไฟ3เส้น
1.สายสีดำอยู่ตรงกลาง เรียกว่าสายคอมม่อนหรือสายตรง
คือสายไฟACที่เข้ามาตรงๆโดยไม่ผ่านสวิทช์นั่นเอง
2.สายสีแดงคือสายมอเตอร์หลัก
คือสายไฟACอีกเส้นที่ผ่านเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อถังปั๊มน้ำมีแรงดันต่ำ(มีการใช้น้ำ)
เพรสเชอร์สวิทช์ก็จะต่อไฟACเข้ามาที่สายสีแดง(มอเตอร์หลัก)
เมื่อถังปั๊มน้ำมีแรงดันสูง(ไม่มีการใช้น้ำ)
เพรสเชอร์สวิทช์ก็จะตัดไฟAC สายสีแดง(มอเตอร์หลัก)ก็จะไม่มีไฟ
3.สายสีน้ำตาลคือสายสตาร์ท
สายสตาร์ทจะทำงานร่วมกับCค่า6UF/400V
เพื่อสร้างแรงไฟเพิ่มขึ้นอีก1เท่าตัวคือจาก220ACVเป็น440ACV
เพื่อฉุดให้มอเตอร์หมุนได้
การต่อCจะไม่ต่อกับสายสีดำหรือสายตรง(สายคอมม่อน)
คือในที่นี้จะต่อกับสายสีแดงกับสีน้ำตาลของมอเตอร์นั่นเอง

มอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155Nจะมีขดลวด2ขด
1.ขดลวดมอเตอร์หลัก
2.ขดลวดสตาร์ท

การวัดโอมห์ต้องดึงปลั๊กไฟออกก่อน
ใช้มิเตอร์เข็มตั้งย่านX1 แล้วซีโร่โอมห์
วัดขดลวดมอเตอร์หลัก สายสีดำกับสีแดง ได้ 19 โอมห์
วัดขดลวดสตาร์ท สายสีดำกับสีน้ำตาล ได้ 47 โอมห์
วัด2ขดรวมกัน สายสีแดงกับสีน้ำตาล ได้ 66 โอมห์

การวัดไฟมอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155N
เสียบไฟ แล้วเปิดน้ำไว้1หรือ2จุดเพื่อให้ปั๊มน้ำไม่ตัด
เพื่อการวัดไฟที่ง่ายขึ้น
มิเตอร์เข็มตั้งย่าน 1000 ACV
วัดขดลวดมอเตอร์หลัก สายสีดำกับสีแดง ได้ 230 ACV
วัดขดลวดสตาร์ท สายสีดำกับสีน้ำตาล ได้ 290 ACV
วัด2ขดรวมกัน(วัดคร่อมC) สายสีแดงกับสีน้ำตาล ได้ 380 ACV
สาเหตุที่ได้380ACV เพราะมีโหลด(ทำงาน)นั่นเอง

ถ้าวัดมอเตอร์ปั๊มน้ำได้ดังนี้ก็แสดงว่าทุกอย่างดี

CAPACITORในที่นี้ผมขอเรียกย่อๆว่าC หรือแคป

ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155N
ใช้CAPACITOR ค่า 6UF/400VAC
Cตัวนี้จะทำหน้าที่เก็บประจุและคลายประจุ
เนื่องจากไฟบ้านในประเทศไทยใช้220VAC/50HZ
ดังนั้นจึงเก็บประจุ50ครั้งและคลายประจุ50ครั้งภายใน1วินาที
ตามความถี่50HZ
ขณะที่Cเก็บประจุ Cจะมีไฟ220ACV
ขณะที่Cคลายประจุ Cจะมีไฟเพิ่มเป็น2เท่าคือ 440ACV
ทำให้เกิดแรงฉุดมอเตอร์ให้หมุนได้
ถ้าCแห้งมอเตอร์ก็จะไม่หมุนมีแต่เสียงตืดนั่นเอง

การทำงานของเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อมีแรงดันต่ำกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์จะต่อกัน
เมื่อมีแรงดันสูงกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์ก็จะจากออกจากกัน

มอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155Nจะมีสายไฟ3เส้น
1.สายสีดำอยู่ตรงกลาง เรียกว่าสายคอมม่อนหรือสายตรง
คือสายไฟACที่เข้ามาตรงๆโดยไม่ผ่านสวิทช์นั่นเอง
2.สายสีแดงคือสายมอเตอร์หลัก
คือสายไฟACอีกเส้นที่ผ่านเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อถังปั๊มน้ำมีแรงดันต่ำ(มีการใช้น้ำ)
เพรสเชอร์สวิทช์ก็จะต่อไฟACเข้ามาที่สายสีแดง(มอเตอร์หลัก)
เมื่อถังปั๊มน้ำมีแรงดันสูง(ไม่มีการใช้น้ำ)
เพรสเชอร์สวิทช์ก็จะตัดไฟAC สายสีแดง(มอเตอร์หลัก)ก็จะไม่มีไฟ
3.สายสีน้ำตาลคือสายสตาร์ท
สายสตาร์ทจะทำงานร่วมกับCค่า6UF/400V
เพื่อสร้างแรงไฟเพิ่มขึ้นอีก1เท่าตัวคือจาก220ACVเป็น440ACV
เพื่อฉุดให้มอเตอร์หมุนได้
การต่อCจะไม่ต่อกับสายสีดำหรือสายตรง(สายคอมม่อน)
คือในที่นี้จะต่อกับสายสีแดงกับสีน้ำตาลของมอเตอร์นั่นเอง

มอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155Nจะมีขดลวด2ขด
1.ขดลวดมอเตอร์หลัก
2.ขดลวดสตาร์ท

การวัดโอมห์ต้องดึงปลั๊กไฟออกก่อน
ใช้มิเตอร์ดิจิตอลตั้งย่านโอมห์
วัดขดลวดมอเตอร์หลัก สายสีดำกับสีแดง ได้ 18.8 โอมห์
วัดขดลวดสตาร์ท สายสีดำกับสีน้ำตาล ได้ 45.7 โอมห์
วัด2ขดรวมกัน สายสีแดงกับสีน้ำตาล ได้ 63.9 โอมห์

การวัดไฟมอเตอร์ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155N
เสียบไฟ แล้วเปิดน้ำไว้1หรือ2จุดเพื่อให้ปั๊มน้ำไม่ตัด
เพื่อการวัดไฟที่ง่ายขึ้น
มิเตอร์ดิจิตอลตั้งย่าน ACV
วัดขดลวดมอเตอร์หลัก สายสีดำกับสีแดง ได้ 233 ACV
วัดขดลวดสตาร์ท สายสีดำกับสีน้ำตาล ได้ 293 ACV
วัด2ขดรวมกัน(วัดคร่อมC) สายสีแดงกับสีน้ำตาล ได้ 385 ACV
สาเหตุที่ได้385ACV เพราะมีโหลด(ทำงาน)นั่นเอง

ถ้าวัดมอเตอร์ปั๊มน้ำได้ดังนี้ก็แสดงว่าทุกอย่างดี

CAPACITORในที่นี้ผมขอเรียกย่อๆว่าC หรือแคป

ปั๊มน้ำมิตซูรุ่นWP155N
ใช้CAPACITOR ค่า 6UF/400VAC
Cตัวนี้จะทำหน้าที่เก็บประจุและคลายประจุ
เนื่องจากไฟบ้านในประเทศไทยใช้220VAC/50HZ
ดังนั้นจึงเก็บประจุ50ครั้งและคลายประจุ50ครั้งภายใน1วินาที
ตามความถี่50HZ
ขณะที่Cเก็บประจุ Cจะมีไฟ220ACV
ขณะที่Cคลายประจุ Cจะมีไฟเพิ่มเป็น2เท่าคือ 440ACV
ทำให้เกิดแรงฉุดมอเตอร์ให้หมุนได้
ถ้าCแห้งมอเตอร์ก็จะไม่หมุนมีแต่เสียงตืดนั่นเอง

การทำงานของเพรสเชอร์สวิทช์
เมื่อมีแรงดันต่ำกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์จะต่อกัน
เมื่อมีแรงดันสูงกว่าค่า สวิทช์ในเพรสเชอร์ก็จะจากออกจากกัน

ปั๊มน้ำตัดรัว เวลาเปิดก๊อกน้ำ น้ำจะกระชากตามการตัดของปั๊ม
สาเหตุเกิดจากส่วนผสมของน้ำและอากาศไม่เหมาะสม
ถ้าน้ำในถังปั๊มน้ำมากเกินไปก็จะทำให้เกิดอาการปั๊มตัดรัว
ถ้าอากาศในถังปั๊มน้ำมากเกินไป ก็จะทำให้ปั๊มไม่ตัด

การแก้ไขไม่ควรไปปรับที่ตัวเพรสเชอร์สวิทช์
เพราะทางบริษัทได้ออกแบบมาดีที่สุดแล้ว

การปรับให้ถอดปลั๊กออกแล้วปิดวาล์วน้ำที่มิเตอร์ด้านนอก
แล้วเปิดจุกข้างถังปั๊มน้ำออกเพื่อปล่อยน้ำออกจนเกือบหมด

จากนั้นปิดจุกเข้าไป
แล้วเสียบปลั๊กไฟเข้าไป แล้วเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้1จุด
จากนั้นเปิดวาล์วมิเตอร์ด้านนอก
การเปิดวาล์วมิเตอร์ของผมเปิดอยู่ที่1.25รอบ
จะได้น้ำความแรงสูงสุดและนิ่ง คือปั๊มไม่ตัดรัว
การปรับอาจต้องปรับหลายครั้งและหลายวัน
ต้องอาศัยความใจเย็นหน่อยครับ
เมื่อทำได้แล้วควรหาอะไรมาพันหรือทำตำหนิ
ว่าปรับไว้ที่ตำแหน่งใดจึงจะเหมาะสม

การปรับวาล์วมิเตอร์
ขึ้นอยู่กับสถานที่ว่าน้ำจ่ายมาจากประปาแรงแค่ไหน

การปรับวาล์วน้ำมิเตอร์ด้านนอก
จะเป็นการปรับส่วนผสมของอากาศและน้ำ
ที่เข้ามายังถังปั๊มน้ำขณะมอเตอร์ทำงาน
หมายความว่า
ถ้าน้ำในถังปั๊มน้ำมีมากก็จะทำให้เกิดอาการปั๊มตัดรัว
ถ้าน้ำในถังปั๊มน้ำมีน้อยก็จะทำให้เกิดอาการปั๊มไม่ตัด

เชิญชมวีดีโอประกอบครับ



วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560

กดปุ่มPOWER ปุ่มเดียว น๊้าไหลเข้า วัดไตรแอก วาล์วน้ำ เครื่องซักผ้า Once Press Power Valve Work










กดปุ่มPOWER ปุ่มเดียว น๊้าไหลเข้า วัดไตรแอก วาล์วน้ำ เครื่องซักผ้า Once Press Power Valve Work
29/10/2560 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
กดปุ่มPOWER ปุ่มเดียว น๊้าไหลเข้า วัดไตรแอก วาล์วน้ำ เครื่องซักผ้า Once Press Power Valve Work

นํ้าไหลทันทีเมื่อกดPOWERเครื่องซักผ้าSAMSUNG11KGWA13R3
19/6/2557 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
นํ้าไหลทันทีเมื่อกดPOWERเครื่องซักผ้าSAMSUNG11KGWA13R3

การซ่อมต้องใส่รองเท้าและระมัดระวังให้มาก
เพราะอาจทำให้เสียชีวิตได้

กดPOWERอย่างเดียว
แล้วรอสักครู่สังเกตุดูมีนํ้าไหลเข้าเครื่องซักผ้า

1.เปิดก๊อกนํ้าโดยไม่ต้องเสียบไฟ
แล้วรอสักครู่
สังเกตุดูถ้ามีน้ำไหลเข้าเครื่องซักผ้า
ก็แสดงว่าวาล์วน้ำรั่ว ให้ทำการเปลี่ยนวาล์วน้ำ
ถ้าไม่มีน้ำไหลเข้าเครื่องซักผ้าก็แสดงว่าวาล์วน้ำดี

2.เสียบไฟแล้วกดปุ่มPOWERอย่างเดียว
แล้วรอสักครู่
สังเกตุดูถ้ามีน้ำไหลเข้าเครื่องซักผ้าในรุ่นนี้จะมี2วาล์ว
ก็ให้สังเกตุต่อว่าไหลที่ช่องผงซักฟอก(DETERGENT)
หรือช่องน้ำยาปรับผ้านุ่ม(FABRIC SOFTENER)
ถ้าไหลช่องผงซักฟอกก็ให้ตามสายสีน้ำตาล
ถ้าไหลช่องน้ำยาปรับผ้านุ่มให้ตามสายสีเทา
ส่วนสายสีเหลืองเป็นCOMMON(สายร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ)
สายสีเหลืองไม่ต้องตามครับ

ในกรณีนี้น้ำไหลที่วาล์วน้ำผงซักฟอก
ให้ตามสายสีน้ำตาล

แสดงว่า
ไตรแอกตัวเล็กรูปร่างคล้ายทรานซิสเตอร์
ตัวที่ทำหน้าที่เป็นสวิทช์วาล์วน้ำผงซักฟอก ชอต

สาเหตุที่กดปุ่มPOWERแล้วน้ำไหลทันที
เพราะไฟAC จะเข้ามาที่เครื่องซักผ้า2เส้น
ในที่นี้คือ สายสีขาวกับสายสีดำ

เมื่อกดปุ่มPOWER ซีพียูจะสั่งให้รีเลย์ทำงาน
รีเลย์จะทำหน้าที่เป็นสวิทช์ต่อไฟAC
ในที่นี้คือ สายสีขาวต่อเข้าสายสีเหลือง
แล้วไหลผ่านขดลวดในวาล์วน้ำผงซักฟอก
ออกสายสีน้ำตาลมารอที่ไตรแอกเล็กขาริมT2
ส่วนขาT1ของไตรแอกเล็กจะต่ออยู่กับไฟACอีกเส้น
ในที่นี้คือสายสีดำ

เมื่อมีสัญญาณไฟส่งมาจากซีพียู
เข้าที่ขากลางคือขาGATEของไตรแอกเล็ก
ขาT2กับขาT1 ก็ทำหน้าที่เป็นสวิทช์(ชอตติดกัน)
ทำให้สายสีน้ำตาลต่อกับไฟACสีดำ ครบวงจร
วาล์น้ำผงซักฟอก ก็จะทำการปล่อยน้ำเข้าเครื่อง
ตรงช่องผงซักฟอก

เมื่อไตรแอกตัวเล็ก
ที่เป็นสวิทช์วาล์วน้ำผงซักฟอกชอต

ทันทีที่กดปุ่มPOWER
วาล์วน้ำผงซักฟอกก็จะครบวงจรน้ำก็จะไหลทันที
โดยยังไม่มีคำสั่งมาจากซีพียู

ในเครื่องซักผ้ารุ่นนี้จะมีวาล์วน้ำ2ตัวอยู่ในตัวเดียวกัน
คือ
1.วาล์วน้ำตัวที่ทำหน้าที่ปล่อยน้ำสุดท้าย
ปล่อยเข้าช่องน้ำยาปรับผ้านุ่ม
2.วาล์วน้ำตัวที่ปล่อยน้ำแรกๆ
คือวาล์วน้ำผงซักฟอก

ให้เปิดฝาตรงท่อน้ำเข้า
แล้วสังเกตุว่าวาล์วน้ำใช้สีอะไร
ในรุ่นนี้จะใช้สีน้ำตาล
ส่วนสีเหลืองเป็นสายCOMMON(สายร่วม)
ให้จดจำสีน้ำตาลไว้
แล้วไปเปิดฝาที่บอร์ดวงจร
โดยดึงยางออกด้วยลวดงอๆ
แล้วไขนอตออก
จากนั้นให้ตบจากขวาไปซ้ายเพื่อเปิดลอคฝา
แล้วทำการไขนอตและพลิกบอร์ดวงจรขึ้น

การวัดโอมห์ต้องถอดปลั๊กไฟออกก่อน
ใช้มิเตอร์ตั้งย่านโอมห์
จับที่สายสีน้ำตาล
แล้วจิ้มเข้าไปที่ไตรแอกเล็กที่ขาT2อยู่ขาริม

ถ้าวัดแล้วได้ประมาณ0โอมห์ตัวนั้นก็จะเป็น
ไตรแอกเล็กที่ทำหน้าที่เป็นสวิทช์ให้กับวาล์วน้ำผงซักฟอก

หรือจะวัดชอตไตรแอกโดยการวัดขาริมกับริม
คือขาT2กับT1
ถ้าได้ประมาณ0โอมห์ก็แสดงว่าตัวนี้ชอตแล้ว

ให้ใช้ความร้อนจากหัวแร้งจี้พลาสติกด้านหลัง
แล้วดูดตะกั่วเอาไตรแอกเล็กตัวที่ชอตออก

ไตรแอกตัวนี้เป็นเบอร์ M1L43
ทนแรงดันสูงสุด 800 V
ทนกระแสสูงสุด 1 A
ถ้าไม่มีให้ใช้เบอร์แทน