ชนแล้วหนีรถปาเจโร่ชนรถดีแม็กซ์ใช้FACEBOOKกดดันจนจับได้
2/2/2560
ตำรวจโคราชตั้ง
3 ข้อหาหนัก “ทหารเรือ” คนขับรถปาเจโรชนแล้วหนี
ออกหมายเรียกมารับทราบข้อหา
3 ก.พ.นี้
ถ้าไม่มาเจอหมายจับแน่
เผยเป็นคนขับเองและยอมรับสารภาพ
ฝ่ายโดยรถปาเจโร่ชนขอขอบคุณชาวโซเชียลเฟสบุ๊ค
ช่วยกดดันจนคู่กรณีนำรถมาให้ตำรวจ
พร้อมไปตามนัดเพื่อเจรจาาค่าเสียหาย
วันที่ 31มกราคม2560
ผู้สื่อข่าวรายงาน
กรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปวิดีโออุบัติเหตุรถยนต์ชนแล้วหนี
เกิดเหตุช่วงเย็นวันที่
31 ธ.ค.2560
บนถนนราชสีมา-ปักธงชัย
ฝั่งขาออก
บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านไชยมงคล
ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ซึ่งเป็นคลิป
รถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร สีขาว
วิ่งเสียหลักเบียดกระแทกด้านขวารถกระบะอีซูซุ
ดีแม็กซ์
หมายเลขทะเบียน
ตม 9938 กรุงเทพฯ
ทำให้เสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบข้ามร่องกลางถนน
ไปชนกับรถยนต์เก๋งที่วิ่งสวนทางมา
มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
3 ราย
หลังเกิดเหตุชายคนขับรถปาเจโร่
และหญิงสาวที่นั่งมาด้วย
ได้ลงจากรถไปดูเหตุการณ์
ก่อนรีบเดินกลับมาขึ้นรถขับหลบหนีไป
พ.ต.ท.พิชัย
เชิดชู รองผู้กำกับการสอบสวน (หัวหน้างาน)
สภ.โพธิ์กลาง
อ.เมือง จ.นครราชสีมา
หัวหน้าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี
เปิดเผยว่า
เจ้าของรถปาเจโร่คันที่ก่อเหตุ
ได้นำรถยนต์มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว
โดยเจ้าของรถยนต์ปาเจโร่เป็นผู้หญิง
และเป็นชาวจังหวัดชัยภูมิ
แต่รถยนต์จดทะเบียนกับขนส่งจังหวัดนนทบุรี
พร้อมยอมรับว่า
เป็นรถยนต์คู่กรณีที่เกิดเหตุในวันดังกล่าวจริง
แต่ไม่ได้เป็นคนขับรถ
โดยคนขับเป็นผู้ชายที่เป็นเครือญาติกัน
เจ้าหน้าที่จึงได้ออกหมายเรียกให้คนขับรถในวันเกิดเหตุ
มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่
3 ก.พ.2560เวลา 09.00 น.
หรือจะเดินทางมาก่อนก็ได้
แต่หากไม่เดินทางมาภายในวันที่ 3 ก.พ.
พนักงานสอบสวนจะขอศาลออกหมายจับต่อไป
พ.ต.ท.พิชัย
กล่าวอีกว่า
จากการตรวจสอบสภาพรถปาเจโร่
ในเบื้องต้นพบมีร่องรอยการเฉี่ยวชนเล็กน้อย
บริเวณกันชนท้ายฝั่งด้านคนขับ
บริเวณล้อแม็กซ์ด้านหลังขวา
และยางล้อหน้าด้านขวา
ซึ่งเจ้าหน้าที่วิทยาการได้เข้ามาตรวจสอบ
เพื่อเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม
พนักงานสอบสวนทราบชื่อคนขับรถปาเจโร่ในวันเกิดเหตุแล้ว
คือ
นายวสันต์ อังคุนันท์ อายุ 34 ปี รับราชการเป็นทหารเรือ
ยศชั้นประทวน
สังกัดหน่วยทหารเรือแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
ซึ่งจากการพูดคุยทางโทรศัพท์เบื้องต้น
นายวสันต์
ยอมรับว่าเป็นคนขับรถปาเจโร่ในวันเกิดเหตุจริง
และได้ประสานขอเข้าให้ปากคำ
และรับทราบข้อกล่าวกับพนักงานสอบสวนภายในวันที่
3 ก.พ. 2560
ตามหมายเรียกแล้ว
ทางตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาดำเนินคดี 3 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย
ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขับรถเกิดอุบัติเหตุแล้วหลบหนีโดยไม่ให้การช่วยเหลือ
และ
ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์
ส่วนค่าเสียหายให้คู่กรณีไปเจรจากันเอง
รวมถึง
เจ้าของรถเก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า แคมรี่
ที่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้หรือต้องการให้ตำรวจเป็นคนกลาง
ในการเจรจาก็ยินดีที่จะคุยให้
พ.ต.ท.พิชัย
กล่าว
ด้าน
น.ส.ชมพูนุช น้องสาว นายธงชัย บุญมีบุตร
ขับรถกระบะผู้เสียหาย
กล่าวว่า
ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ให้เดินทางไปที่ สภ.โพธิ์กลาง
ในวันที่
3 ก.พ.2560 เพื่อเจรจาเรื่องคดีดังกล่าว
กับคู่กรณี
ส่วนเวลาจะนัดหมายอีกครั้ง
ซึ่งหลังเกิดเหตุ
พี่ชายและครอบครัวลำบากมาก
ไม่มีรถขับไปทำงาน
และยังต้องดูแลหลานที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน
เสียทั้งสุขภาพจิต
และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
ไปแล้วกว่า
1.5 แสนบาท
และต้องคอยตามคดีมาตลอดจนถึงวันนี้
ซึ่งค่าเสียหายจะต้องปรึกษากับครอบครัวพี่ชายอีกครั้งว่าจะเรียกเท่าไร
อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและสังคมโซเชียลมีเดีย
ที่ช่วยกันแชร์กดดันจนทำให้คู่กรณีนำรถคันก่อเหตุ
มาส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
และทำให้คนขับมามอบตัวในวันที่
3 ก.พ.2560
ซึ่งทำให้ผู้เสียหายคือครอบครัวของพี่ชายได้รับความเป็นธรรมต่อไป
ขอบคุณ
ผู้จัดการ/sowuiso wulove
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น