นํ้ารั่วทั้งเครื่องซักผ้าHITACHI
all leak Water Washing matchine
30/4/2560 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
นํ้ารั่วทั้งเครื่องซักผ้าHITACHI
all leak Water Washing matchine
การซ่อมต้องใส่รองเท้า และห้ามเปียกน้ำ
และห้ามมีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
แตะถูกตัวนำไฟฟ้า
เพราะอันตรายอาจถึงชีวิตได้
ถ้าเครื่องซักผ้าขณะน้ำไหลเข้าถังซักผ้า
แล้วกดPAUSEหรือปิดเครื่องแล้วน้ำยังไหลต่อได้
แสดงว่าเสีย วาล์วน้ำเสีย ลักษณะค้าง
สปริงภายในโซลินอยด์วาล์วน้ำเป็นสนิม
ถ้าเครื่องซักผ้าตั้งระดับน้ำต่ำสุดแต่ได้ระดับน้ำสูงสุด
แสดงว่า เพรสเชอร์มีคนปรับผิดตำแหน่ง
ปรับสกรูต่ำลง ได้น้ำสูงขึ้น
ปรับสกรูสูงขึ้น ได้น้ำต่ำลง
การปรับสกรู กับระดับน้ำจะสวนทางกัน
โซลินอยด์วาล์วน้ำเข้า หรือINTAKE
VALVE
จะมีค่าความต้านทานอยู่ที่ประมาณ 4.9KΩ
ใช้ไฟ 220VAC/50HZ
กินกระแสประมาณ 31.74 มิลลิแอมป์(mA)
ถ้าเครื่องซักผ้าขณะน้ำไหลเข้าถังซักผ้า
แล้วกดPAUSEหรือปิดเครื่องแล้วน้ำยังไหลต่อได้
แสดงว่าเสีย วาล์วน้ำเสีย ลักษณะค้าง
สปริงภายในโซลินอยด์วาล์วน้ำเป็นสนิม
ถ้าเครื่องซักผ้าตั้งระดับน้ำต่ำสุดแต่ได้ระดับน้ำสูงสุด
แสดงว่า เพรสเชอร์มีคนปรับผิดตำแหน่ง
ปรับสกรูต่ำลง ได้น้ำสูงขึ้น
ปรับสกรูสูงขึ้น ได้น้ำต่ำลง
การปรับสกรู กับระดับน้ำจะสวนทางกัน
การปรับเพรสเชอร์ ที่ตัวเพรสเชอร์จะมีนัทปรับ
ถ้าปรับนัทลงไป น้ำที่ได้จะสูงขึ้น
ถ้าปรับมัทขึ้นมา น้ำที่ได้จะต่ำลง
จำง่ายๆ นัทกับน้ำจะสวนทางกัน
เวลาปรับจะต้องรีเซ็ทถังก่อน
การรีเซ็ทถังคือ การไล่น้ำในถังออกให้หมด
ถ้ามีน้ำในถังให้ทำการกดPOWER
กดSPIN กดSTART
ทำการปั่นแห้งเพื่อเดรนน้ำในถังออกให้หมด
จากนั้นทำการปรับนัทไปประมาณ1รอบหรือ60นาที
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด
กดSTART
แล้วรอดูน้ำว่าสูงสุดแล้วได้ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
ถ้าไม่ได้ตามที่เราต้องการก็ให้เริ่มต้นใหม่จนได้ระดับน้ำตามที่ต้องการ
เมื่อตั้งเสร็จแล้วให้ใช้ซิลิโคนหรือกาวทาที่นัทเพรสเชอร์เพื่อกันเคลื่อน
เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ
ถ้ามีน้ำในถังจะปรับยาก
เพราะการปรับจะเพี้ยนทำให้ปรับยาก
สาเหตุเพราะ
นักโปรแกรมเมอร์จะเขียนคำสั่งเป็นห้องๆไว้
และมีการเปรียบเทียบความถี่ เช่น
ถ้าความถี่มากกว่าให้วาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่อง
ถ้าความถี่น้อยกว่าให้หยุดการทำงานวาล์วน้ำ
และสั่งให้มอเตอร์หมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อทำการซักต่อไปนั่นเอง
และมีคำสั่งพ่วงท้ายว่าถ้าความถี่สูงขึ้นกี่HZ
จึงจะสั่งวาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่องเพื่อเติมน้ำที่พร่องหายไป
และยังมีคำสั่งอีนๆอีกมากมาย
การปรับเพรสเชอร์ ที่ตัวเพรสเชอร์จะมีนัทปรับ
ถ้าปรับนัทลงไป น้ำที่ได้จะสูงขึ้น
ถ้าปรับมัทขึ้นมา น้ำที่ได้จะต่ำลง
จำง่ายๆ นัทกับน้ำจะสวนทางกัน
เวลาปรับจะต้องรีเซ็ทถังก่อน
การรีเซ็ทถังคือ การไล่น้ำในถังออกให้หมด
ถ้ามีน้ำในถังให้ทำการกดPOWER
กดSPIN กดSTART
ทำการปั่นแห้งเพื่อเดรนน้ำในถังออกให้หมด
จากนั้นทำการปรับนัทไปประมาณ1รอบหรือ60นาที
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด
กดSTART
แล้วรอดูน้ำว่าสูงสุดแล้วได้ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
ถ้าไม่ได้ตามที่เราต้องการก็ให้เริ่มต้นใหม่จนได้ระดับน้ำตามที่ต้องการ
เมื่อตั้งเสร็จแล้วให้ใช้ซิลิโคนหรือกาวทาที่นัทเพรสเชอร์เพื่อกันเคลื่อน
เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ
ถ้ามีน้ำในถังจะปรับยาก เพราะการปรับจะเพี้ยนทำให้ปรับยาก
สาเหตุเพราะ
นักโปรแกรมเมอร์จะเขียนคำสั่งเป็นห้องๆไว้
และมีการเปรียบเทียบความถี่ เช่น
ถ้าความถี่มากกว่าให้วาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่อง
ถ้าความถี่น้อยกว่าให้หยุดการทำงานวาล์วน้ำ
และสั่งให้มอเตอร์หมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อทำการซักต่อไปนั่นเอง
และมีคำสั่งพ่วงท้ายว่าถ้าความถี่สูงขึ้นกี่HZ
จึงจะสั่งวาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่องเพื่อเติมน้ำที่พร่องหายไป
และยังมีคำสั่งอีนๆอีกมากมาย
สายยางเพรสเชอร์
ถ้ายาวเกินไปก็จะทำให้สายยางหลุดง่าย
เพราะสายยางจะเตะกับถังขณะปั่นแห้ง
ถ้าสั้นเกินไปก็จะทำให้สายยางหลุดง่าย
เพราะจะถูกกระชากหลุดตอนปั่นแห้งเช่นกัน
ดังนั้นสายยางจะต้องไม่สั้นและไม่ยาวจนเกินไปนั่นเอง
ถ้าสายยางเพรสเชอร์หลุดหรือรั่ว
จะเกิดอาการน้ำล้นถัง และน้ำรั่วใต้ถัง
น้ำล้นถังเพราะไม่มีแรงดันไปที่ตัวเพรสเชอร์
เพื่อกดหน้ายางไดอะแฟรม
ทำให้แกนเฟอร์ไรท์ไม่สามารถสอดเข้าไปในขดลวดได้มากขึ้น
ทำให้ความถี่ที่ตัวเพรสเชอร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ทำให้MCUที่คอยตรวจจับความถี่ที่ตัวเพรสเชอร์
เข้าใจว่าน้ำยังไม่เต็มถัง MCUจึงไม่สั่งหยุดไฟวาล์วน้ำ
ทำให้น้ำไหลเข้าเครื่องตลอดเวลา
และเมื่อวาล์วน้ำทำงานนานจนถึงช่วงเวลาหนึ่ง
ตามที่นักโปรแกรมเมอร์เขียนสั่งงานMCUไว้
ก็จะฟ้องERROR และหยุดการทำงานวาล์วน้ำทันที
การปรับเพรสเชอร์ ที่ตัวเพรสเชอร์จะมีนัทปรับ
ถ้าปรับนัทลงไป น้ำที่ได้จะสูงขึ้น
ถ้าปรับมัทขึ้นมา น้ำที่ได้จะต่ำลง
จำง่ายๆ นัทกับน้ำจะสวนทางกัน
เวลาปรับจะต้องรีเซ็ทถังก่อน
การรีเซ็ทถังคือ การไล่น้ำในถังออกให้หมด
ถ้ามีน้ำในถังให้ทำการกดPOWER
กดSPIN กดSTART
ทำการปั่นแห้งเพื่อเดรนน้ำในถังออกให้หมด
จากนั้นทำการปรับนัทไปประมาณ1รอบหรือ60นาที
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด
กดSTART
แล้วรอดูน้ำว่าสูงสุดแล้วได้ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
ถ้าไม่ได้ตามที่เราต้องการก็ให้เริ่มต้นใหม่จนได้ระดับน้ำตามที่ต้องการ
เมื่อตั้งเสร็จแล้วให้ใช้ซิลิโคนหรือกาวทาที่นัทเพรสเชอร์เพื่อกันเคลื่อน
เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ
ถ้ามีน้ำในถังจะปรับยาก
เพราะการปรับจะเพี้ยนทำให้ปรับยาก
สาเหตุเพราะ
นักโปรแกรมเมอร์จะเขียนคำสั่งเป็นห้องๆไว้
และมีการเปรียบเทียบความถี่ เช่น
ถ้าความถี่มากกว่าให้วาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่อง
ถ้าความถี่น้อยกว่าให้หยุดการทำงานวาล์วน้ำ
และสั่งให้มอเตอร์หมุนซ้ายหมุนขวาเพื่อทำการซักต่อไปนั่นเอง
และมีคำสั่งพ่วงท้ายว่าถ้าความถี่สูงขึ้นกี่HZ
จึงจะสั่งวาล์วน้ำปล่อยน้ำเข้าเครื่องเพื่อเติมน้ำที่พร่องหายไป
และยังมีคำสั่งอีนๆอีกมากมาย
อาการที่1 วาล์วน้ำค้างปล่อยน้ำตลอด
ตรวจสอบโดยการกดPOWER
กดSTART
MCU สั่งไฟไปที่วาล์วน้ำ
น้ำไหลเข้าเครื่องพอกดPOWERปิดเครื่อง
MCUก็หยุดจ่ายไฟให้วาล์วน้ำ ทำให้น้ำหยุดไหล
แต่ถ้าปล่อยให้วาล์วน้ำทำงานไปนานๆประมาณห้านาที
แล้วกดปุ่มPOWERปิดเครื่อง
หรือดึงปลั๊กออก
น้ำก็ยังไหลไม่หยุดเนื่องจากวาล์วน้ำเกิดอาการค้าง
คือไม่สามารถปิดน้ำให้สนิทได้
เนื่องจากสปริงภายในวาล์วน้ำเป็นสนิม
ไม่มีแรงสปริงที่เพียงพอในการกดแผ่นยางนั่นเอง
แก้โดยซื้อวาล์วน้ำมือสอง ราคา50บาทมาเปลี่ยน
อาการที่2 น้ำไหลเข้าเครื่องตลอดไม่ยอมซัก
ตรวจสอบโดยปิดเครื่องหรือดึงปลั๊กไฟออก
จากนั้นตรวจสายยางเพรสเชอร์
ว่าระดับน้ำในสายยางเท่ากับระดับน้ำในถังหรือไม่
หรือดูที่กระบอกแรงดันว่ามีน้ำเต็มกระบอกแรงดันหรือไม่
ปรากฏว่าน้ำอยู่แค่ปากกระบอกแรงดันแสดงว่าสายยางไม่รั่ว
นั่นหมายความว่ามีคนมาปรับเพรสเชอร์แต่ปรับผิดอยู่
เพราะสปริงภายในเพรสเชอร์จะคอยดันนัทออกมาให้สูงขึ้น
ซึ่งจะเกิดอาการน้ำหด
จากนั้นปรับเพรสเชอร์ให้นัทขึ้นมาประมาณ2รอบหรือ120นาที
คือรอบละ60นาที
จากนั้นเดรนน้ำในถังออกให้หมดด้วยการกดPOWER
START SPIN
เป็นการรีเซ็ทถัง
ถ้าไม่รีเซ็ทถังจะทำให้การปรับเพี้ยนปรับไม่สำเร็จ
จากนั้นกดPOWER กดระดับน้ำสูงสุด
กดSTART
ถ้าน้ำยังไม่ได้ตามที่ต้องการก็เริ่มต้นตามขั้นตอนเดิมใหม่
คือถ้าปรับนัทลงไป ได้น้ำสูงขึ้นมา
ถ้าปรับนัทขึ้นมา ได้น้ำต่ำลงไป
หลังจากปรับเพรสเชอร์เสร็จแล้ว
ให้ใช้ซิลิโคนทาไว้ที่ปรับเพื่อกันเคลื่อน
ถ้าไม่อย่างนั้นเวลาเครื่องปั่นแห้งเพรสเชอร์จะคลายออก
เพราะสปริงภายในเพรสเชอร์จะคอยดันที่ปรับให้สูงขึ้น
ทำให้ได้น้ำหดลง
เกิดอาการน้ำหดไม่เต็มถังนั่นเอง
อาการที่3 เก็บน้ำไม่อยู่ขณะซักและเมื่อเดรนน้ำทิ้งน้ำพุ่งออกใต้ถัง
ลูกยางมีตะกรัน ทำความสะอาดลูกยาง
อาการที่4 น้ำรั่วหยดใต้ถังเวลาซัก
การหยดตรงที่เวลาถอดออกมาตรงที่สวมเข้ากับถัง
ใช้ซิลิโคนหลอดละ 80บาท
ทาแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ทิ้งไว้ประมาณ1ชม
อาการที่5 น้ำรั่วด้านหลังใกล้กับวาล์วน้ำเข้า
ถอดฝาออกมาไม่รั่ว
เป็นเพราะเวลาประกอบฝาบนด้านหลัง
จะทำให้วาล์วน้ำอยู่ในระนาบ
ดันพลาสติกที่กั้นน้ำที่แตกจนอ้าออก
ทำให้น้ำพุ่งออกมาเวลาประกอบกับเข้าไป
ใช้ซิลิโคนอุดรอยรั่ว
อาการที่6 เสียงดังเอี๊ยดขณะซัก
สายพานหย่อนประมาณ3.5ซม.
ปรับสายพานให้ตึง เป็น2-3ซม.
เสียงดังเอี๊ยดหายแล้ว
อาการที่7 เสียงดังก๊อกขณะซัก
ถอดจานซักออกมาดูไม่พบสิ่งแปลกปลอม
สันนิษฐานว่าเป็นที่ชุดคลัชท์เป็นสนิม
เนื่องจากน้ำรั่วพุ่งขณะเดรนน้ำทิ้ง
ค่าอะไหล่
วาล์วน้ำมือ2 ราคา50บาท
ซิลิโคน 1หลอด 80บาท
ค่าน้ำมันไปซื้ออะไหล่ 100บาท
ค่าน้ำทดลองซัก 10บาท
รวมเป็นเงิน 240บาท
คิดเงินเพื่อนบ้านไป 500บาท ได้กำไร 260บาท
เชิญดูคลิปวีดีโอประกอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น