วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เซ็นเซอร์ตัวหยอดเหรียญSG9แบบทุกเหรียญ ตอน4วัดดิบหรือวัดในวงจรด้วยมิเตอร์ดิจิตอล



เซ็นเซอร์ตัวหยอดเหรียญSG9แบบทุกเหรียญ ตอน4วัดดิบหรือวัดในวงจรด้วยมิเตอร์ดิจิตอล
9/8/2558 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
เซ็นเซอร์ตัวหยอดเหรียญSG9แบบทุกเหรียญ ตอน4วัดดิบหรือวัดในวงจรด้วยมิเตอร์ดิจิตอล

การซ่อมต้องใส่รองเท้า และห้ามเปียกน้ำ
และห้ามมีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
แตะถูกตัวนำไฟฟ้า
เพราะอันตรายอาจถึงชึวิตได้

ตัวหยอดเหรียญSG9แบบหยอดได้ทุกเหรียญสามารถโปรแกรมเหรียญได้เองเมื่อมีเหรียญออกมาใหม่

มิเตอร์เข็มสายสีดำเป็นไฟบวก
สายสีแดงจะเป็นไฟลบหรือกราวด์
  การวัดด้วยมิเตอร์เข็มย่านX1
จะมีไฟออกมา3โวลท์ 150MA
ส่วน3โวลท์150MA ที่ว่านี้คือขณะยังไม่มีโหลด
ถ้าเรานำสายมิเตอร์เข็มมาจึ้ติดกัน
จังหวะนี้จะได้ประมาณ150MA
แต่โวลท์จะตกเหลือ0โวลท์
เพราะเป็นการช็อทตรงนั่นเอง
การวัดในย่านX1นี้จะแม่นยำกว่าย่านX10
ย่านX10จะมีไฟออกมาที่3V 15MA

ส่วนการวัดด้วยมิเตอร์ดิจิตอลFLUKE115
ปรับไปย่านไดโอด ย่านนี้จะมีไฟออกมา
2.5V 860 uA
สายสีแดงเป็นไฟบวก
สายสีดำเป็นไฟลบ
ซึ่งจะตรงข้ามกับมิเตอร์เข็ม

การวัดดิบคือการวัดในวงจรโดยไม่ต้องเสียบไฟ
เรียกว่าเป็นการวัดดิบ

การวัดดิบด้วยมิเตอร์เข็มย่านX1 จะแม่นยำถึง100%
การวัดดิบด้วยมิเตอร์เข็มย่านX10 จะแม่นยำ80%
การวัดดิบด้วยมิเตอร์ดิจิตอล จะแม่นยำประมาณ70%

การวัดดิบลักษณะช็อท
มิเตอร์เข็มย่านX1และย่านX10และมิเตอร์ดิจิตอล
สามารถวัดดิบลักษณะช็อทได้แม่นยำ100%
แต่มีอีกกรณีอาจโดนหลอกได้
คือบางครั้งอาจมีการต่อคร่อมขดลวดได้
เช่นไดโอด4148 ต่อคร่อมขดลวดปล่อยเหรียญ
หรือHOROUTในTV ก็จะต่อคร่อมขดลวดHOR DRIVE
เป็นต้น

การวัดดิบลักษณะขาดหรือยืด
  มิเตอร์เข็มย่านX1 วัดได้100%
เพราะไม่มีวงจรอะไรที่จะจัดวงจรต่ำกว่าย่านX1นั่นเอง
  มิเตอร์เข็มย่านX10 วัดได้80%
เพราะในวงจรมักจะจัดความต้านทาน
อยู่ในย่านใกล้กับย่านX10 ทำให้หลงทางได้ง่าย
  มิเตอร์ดิจิตอล วัดได้70%
สาเหตุเพราะ ถ้าที่ตัวCหรือคาปาซิเตอร์
มีไฟค้างอยู่แม้เพียงเล็กน้อย
ก็จะทำให้การวัดเพี้ยนเป็นโอมห์สูงทันที
และถ้าCที่มีค่าเป็นร้อยโวลท์แม้ดึงไฟออก
ก็อาจจะมีไฟตกค้างได้
ดังนั้นการวัดต้องคลายประจุก่อน
ถ้าไม่งั้นอาจทำให้มิเตอร์พังได้ทันที

การวัดดิบเซนเซอร์ตัวส่ง(LED INFRARED)
ด้วยมิเตอร์ดิจิตอล FLUKE115
ด้านที่มีหัวตัดจะเป็นCATHODEขั้วลบ
ส่วนด้านโค้งจะเป็นANODEขั้วบวก
  การวัดFORWARD เป็นการวัดแบบถูกขั้ว
คือสายสีแดงไฟบวกจับที่ขั้วANODE
สายสีดำไฟลบจับที่ขั้วCATHODE
  การวัดREVERSE เป็นการวัดแบบกลับขั้ว
และจะวัดไม่ขึ้นนั่นเอง

วัดFORWARDได้ประมาณ0.9VDC
วัดREVERSE จะต้องไม่ขึ้น
แต่ถ้าวัดรีเวิร์สในวงจรถ้าขึ้นก็ไม่ถือว่าเสีย
เพราะเป็นการวัดในวงจรแทน
  ในวงจรจะมี2ตัว ดังนั้นให้ทำการวัดเทียบ
ถ้าตัวนึงวัดได้ประมาณ0.9VDC
อีกตัววัดได้ประมาณ0.5VDCก็แสดงว่าเสียลัษณะรั่ว
ถ้ามีเสียงร้องตี๊ดยาวได้0โวลท์ก็แสดงว่าช็อทแล้ว
  ถ้าตัวนึงวัดได้ประมาณ0.9VDC
อีกตัววัดได้ประมาณ1.2VDC
ก็แสดงว่าเสียลัษณะขาดหรีอยืด
แต่ที่วัดขึ้นก็เป็นเพราะเป็นการวัดในวงจร

การวัดดิบเซนเซอร์ตัวรับ(PHOTO TRANSISTOR)
ด้วยมิเตอร์ดิจิตอลFLUKE115
ด้านที่มีหัวตัดจะเป็นCATHODEหรือขาC
ส่วนด้านโค้งจะเป็นขาE ต่อลงกราวด์
  การวัดFORWARD เป็นการวัดแบบถูกขั้ว
คือสายสีแดงไฟบวกจับที่ขาC
สายสีดำไฟลบจับที่ขาE
  การวัดREVERSE เป็นการวัดแบบกลับขั้ว
วัดREVERSEและวัดFORWARD ได้
แล้วแต่แสงที่มาตกกระทบ
แต่โฟโต้ทรานซิสเทอร์จะทำงานได้ดี(โอมห์ต่ำ)
เมื่อแสงอินฟาเรดมาตกกระทบ
แต่แสงแดดจะทำให้โอมห์ต่ำได้ลำบาก



ไม่มีความคิดเห็น: