นํ้าผลไม้ น้ำสมุนไพร น้ำอัดลม ที่มีความหวาน กินต่อเนื่องจะทำให้สะสมจนเป็นโรคเบาหวาน 100เปอร์เซ็นท์
29/9/2560 SONGCHAI
PRAPATRUNGSEEE
นํ้าผลไม้ น้ำสมุนไพร น้ำอัดลม ที่มีความหวาน
กินต่อเนื่องจะทำให้สะสมจนเป็นโรคเบาหวาน 100เปอร์เซ็นท์
ผลไม้เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าแปรรูปลงกล่องแล้ว
จะต้องใช้ผลไม้จำนวนมากกว่าจะได้น้ำ1กล่อง
ผู้ผลิตจะต้องทำให้มีรสหวาน เพื่อจะได้ขายได้
เช่นถ้าเป็น น้ำผลไม้ ส้มเขียวหวาน
อาจจะไม่ต้องใส่น้ำตาล
หรือใส่น้ำตาลในปริมาณน้อยได้
เพราะส้มเขียวหวานมันหวานในตัวอยู่แล้ว
ถามว่าถ้าน้ำผลไม้ส้มเขียวหวานยี่ห้อไม่ใส่น้ำตาลกินต่อเนื่องได้ไหม
ตอบถ้ากินต่อเนื่องก็จะเกิดการสะสมจนเป็นเบาหวานแน่นอน
100%
ถ้าเป็นน้ำผลไม้ ที่ไม่มีรสหวาน
ผู้ผ่ลิตก็จะเติมน้ำตาลมากขึ้น
คือเติมจนกินแล้วมีรสหวานนั่นเอง
เช่นออกเปรี้ยวหวานนิดๆ
ทำไมผมถึงรู้ว่ากินแล้วเป็นเบาหวานแน่นอน
เพราะผมมีประสพการณ์
เช่น
1 แม่ผมเป็นโรคเบาหวาน กินโยเกิร์ต1ถ้วย ซึ่งมีส่วนผสมของน้ำตาลมาก
เนื่องจากผู้ผลิตต้องการกลบรสเปรี้ยว
กินตอนกลางคืน ตอนเช้าตกเตียง ขยับตัวไม่ได้
หามส่งรพ.
เบาหวานขึ้น300กว่า
2 ลูกผมกิน น้ำสมุนไพรที่มีรสหวาน กินวันละครึ่งแก้ว
กินประมาณ10วัน
วันที่11
เริ่มมีอาการชักรุนแรง ชักทั้งคืนจนผมไม่ได้นอน
ต้องคอยจั๊กจี๋ให้ฟื้นทั้งคืน
วันที่12
เริ่มมีอาการชักรุนแรง ชักทั้งคืนจนผมไม่ได้นอน
ต้องคอยจั๊กจี๋ให้ฟื้นทั้งคืน
วันที่13 เริ่มมีอาการชักรุนแรง ชักทั้งคืนจนผมไม่ได้นอน
ต้องคอยจั๊กจี๋ให้ฟื้นทั้งคืน
วันที่14
คิดได้ว่ามีการกินน้ำสมุนไพรที่มีความหวาน
ตอนแรกก็คิดว่ามันจะเป็นไปได้หรือ
เพราะกินมาแล้วประมาณ10วัน
ถ้าเป็นเพราะกินน้ำสมุนไพรที่มีรสหวาน
ก็น่าจะเป็นวันแรกที่กิน
ภรรยาผมเป็นเบาหวาน หมอเบาหวานบอกว่า
น้ำกล่องหรือน้ำขวดทุกชนิดที่กินแล้วมีรสหวาน
ห้ามกินติดต่อกันนานๆ
เพราะจะเกิดการสะสมจนเป็นเบาหวานในที่สุด
วันที่14 ผมให้ลูกเลิกกิน
ปรากฏว่าอาการชักลดลงทันที
คือตอนกลางคืน ชักประมาณ2รอบ
จากเดิมที่ชัก8รอบใน1คืน
วันที่15 นอนกลางคืนชัก1รอบ
วันที่16 เลิกชัก
หลังจากเลิกกินประมาณ10วัน
ลูกผมอยากกินน้ำกล่องหวานๆอีก
ผมก็ให้ลูกผมกินน้ำผลไม้ องุ่น วันละครึ่งแก้ว
ก็เกิดอาการ
หลังจากกินไป10วันเป็นอาการเดียวกันครับ
ผมก็ให้ลูกผมเลิกกินอีก
หลังจากเลิกกินน้ำองุ่นไป10วัน
ก็ให้ลูกผมกินน้ำผลไม้ ส้มเขียวหวาน
ข้างกล่องเขียนว่าปลอดน้ำตาล100%
กินไปประมาณ10วันก็เกิดการชักรูปแบบเดิมอีก
ผมก็ให้เลิกกิน ลูกผมก็เลิกชัก
ส่วนตัวผมทดลองกิน น้ำผลไม้ตามที่ลูกกิน
คือลูกกินอะไรผมก็กินด้วย
ในปริมาณเท่าๆกัน ปรากฏว่า
ในการกินวันแรกจนถึงประมาณ10วัน
กินแล้วไม่รู้สึกว่าเป็นอะไรเลย
เนื่องจากกินไม่เยอะคือครึ่งแก้วเท่านั้น
ปรากฏว่าหลัง10วันไปแล้วเกิดอาการ กับตัวผม
คือเวียนหัว ไม่มีแรง
อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ทำให้ผมหยุดการกินของตัวเองลงอย่างเด็ดขาด
เพราะผมกลัวที่จะเป็นโรคเบาหวาน
เพราะการเป็นโรคเบาหวานมันทรมานมาก
กินอะไรก็ต้องระวัง
เพราะถ้าเบาหวานขึ้นตาจะทำให้ตาบอด
และแน่นอนที่สุด
ทำให้ไตเสื่อม
และจะเป็นโรคไตแน่นอนเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ10ปี
และถ้าขาเป็นแผลก็อาจต้องตัดขาทิ้ง
ยกเว้นคนที่ระวังเริ่องอาหารการกิน ควบคุมน้ำตาลไม่ให้เกิน150
ก็จะไม่เกิดโรคแทรกซ้อน แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากครับ
ส่วน ว่านง็อก ถ้าลูกผมกินวันละ10ใบ
ประมาณ1เดือนก็จะเกิดอาการชักทั้งคืนเหมือนกัน
ดังนั้นว่านง็อกจึงไม่เหมาะให้คนที่เป็นโรคชักกิน
เพราะกินแล้วร่างกายจะมีการตื่นตัว
กระฉับกระเฉง
หรือ แอคทิฟ(ACTIVE)
และอีกอย่างคนที่ผมรู้จักหลายคน
เป็นเบาหวานจากการกินน้ำอัดลม
ติดต่อกันทุกวัน เพราะการกินน้ำอัดลม
กินแล้วจะติด
ถ้าไม่กินก็จะกระวนกระวาย
ทำให้กินติดต่อกันทุกวันจนในที่สุดก็เป็นเบาหวานไป2คนแล้ว
คนแรกคือพี่สะใภ้เมืย คนที่สอง
คือเพื่อนบ้านเล่าให้ฟัง
แต่ที่แปลกยิ่งไปกว่านั้น คือเมื่อเป็นเบาหวานแล้ว
เลิกกินน้ำอัดลมอย่างเด็ดขาดได้
แต่ถ้าหยุดกินน้ำอัดลมไม่ได้ก็แนะนำว่ากินเป็นแบบน้ำอัดลมไร้น้ำตาล
หรือน้ำอัดลมแบบซีโร่
ก็จะทำให้หลุดรอดจากการเป็นเบาหวานได้
แต่ก็ไม่ควรกินมากครับ เพราะอาจจะเกิดโทษกับร่างกายได้
สรุป น้ำขวดน้ำกล่องที่มีรสหวานทุกชนิด
สามารถกินได้เป็นครั้งคราวเท่านั้น
ห้ามกินติดต่อกันโดยเด็ดขาด
เพราะจะเกิดการสะสมจนเป็นโรคเบาหวาน100%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น