//////////////////////////////////////////////////////////////////
ปั่นไม่แห้งแต่ซักปกติเครื่องซักผ้าSAMSUNG11KGWA13R3
3/6/2557 SONGCHAI PRAPATRUNGSEE
ปั่นไม่แห้งแต่ซักปกติเครื่องซักผ้าSAMSUNG11KGWA13R3
1.ดูท่อน้ำทิ้งว่าตันหรือไม่
หรือตอนปั่น(SPIN)ให้เปิดฝาดูว่าน้ำมีค้างไว้หรือไม่
เพราะถ้ามีน้ำค้างไว้จะปั่นไม่แห้ง
ห้ามเอามือเข้าไปในถังซักเพราะอันตรายมาก
2.ถอดฝาหลังออกแล้วเอาเครื่องซักผ้านอนลง
เช็คสายพานว่าหลวมเกินไปหรือไม่
ปกติเครื่องซักผ้าสายพานจะหลวมกว่า
รถยนต์ แต่ก็ไม่ใช่หลวมจนจะหลุด
หมายความว่าเครื่องซักผ้า
สายพานห้ามใส่ตึง เพราะชุดครัชจะเสีย
ให้ใส่หลวมพอประมาณจึงจะดี
ถ้าหลวมจนจะหลุดก็จะทำให้ปั่นไม่แห้งได้(ปั่นฟรี)
3.เครื่องซักผ้ารุ่นนี้จะใช้มอเตอร์ตัวเดียว
ทำหน้าที่ทั้งซักและปั่น
เอามิเตอร์มาวัดโอมห์ที่แจ๊ค
ขณะวัดให้ถอดไฟออก
ที่แจ๊คจะมีสายไฟ3คู่
คู่กลางเป็นสายสีเหลืองขาว(ขั้วCOMMON)
คู่ริมเป็นสายสีน้ำเงิน(ขั้วหมุนซ้าย)
คู่ริมอีกด้านเป็นสีแดง(ขั้วหมุนขวา)
การวัดที่สายแจ๊คมอเตอร์จะวัดยาก
ดังนั้นให้ถอดฝาด้านบนออก
แล้ววัดที่แจ๊ค วัดตามสีก็ได้เพราะจะถึงกันหมด
ถ้าไม่ถึงกันก็แสดงว่าสายขาด
วัดเหลือง(ขากลาง)กับน้ำเงิน(ขาริม)
ถ้าวัดด้วยมิเตอร์ดิจิตอล23.5โอมห์
มิเตอร์เข็มได้22โอมห์
วัดเหลือง(ขากลาง)กับแดง(ขาริม)
ถ้าวัดด้วยมิเตอร์ดิจิตอล23.7โอมห์
มิเตอร์เข็มได้22โอมห์
ถ้าวัดได้ค่าใกล้เคียงกันหรือเท่ากันทั้ง2ครั้ง
ก็แสดงว่าไม่ชอตรอบ
แต่ถ้าเป็นแบบ2ถัง
ก็จะมีมอเตอร์ปั่นต่างหาก
มอเตอร์ปั่นจะวัดแล้วไม่เท่ากัน
ทั้ง2ด้าน เนื่องจากมอเตอร์จะหมุนขวาอย่างเดียว
ไม่มีการหมุนซ้ายดังนั้นจึงไม่ต้องเท่ากันทั้ง2ด้าน
แต่มอเตอร์ซักมีการหมุนซ้ายและขวา
ดังนั้นจึงต้องมีค่าโอมห์เท่ากัน
หรือใกล้เคียงกันทั้ง2ด้าน
วัดน้ำเงิน(ขาริม)กับแดง(ขาริม)
ถ้าวัดด้วยมิเตอร์ดิจิตอล46.8โอมห์
มิเตอร์เข็มได้42โอมห์
ค่าโอมห์มอเตอร์ซักปั่นนี้
คือของSAMSUNG 11KG WA13R3
ถ้าวัดขากลางกับขาริมแล้ว
ได้เท่ากันหรือใกล้เคียงกันทั้ง2ด้าน
แล้ววัดขาริมกับริมได้ใกล้เคียงกับ2ด้านรวมกัน
ก็แสดงว่ามอเตอร์ซักปั่นไม่น่าจะเสีย
4.วัดC(คาแปซิเตอร์)โดยดูที่ตัวC
รุ่นนี้ใช้ 14UF
ให้ดึงแจ๊คที่เสียบไว้ที่Cออก
ถ้าวัดด้วยมิเตอร์ดิจิตอลจะได้14UF
ถ้าวัดด้วยมิเตอร์เข็มให้ตั้งย่านวัดX10K
แล้วทำการซีโร่โอมห์ให้อยู่ที่เลข0เพื่อความแม่นยำ
จากนั้นทำการชอตขาของคาแปซิเตอร์
เพื่อทำการคลายประจุก่อนการวัด
ส่วนมิเตอร์ดิจิตอลวัดได้เลยไม่ต้องคลายประจุ
การวัดไม่ต้องคำนึงถึงขั้วเพราะเป็นCแบบไม่มีขั้ว
ก่อนวัดด้วยมิเตอร์เข็มทุกครั้งต้องคลายประจุทุกครั้ง
โดยเอาขั้วของCแตะกันด้วยสายคีบหรืออี่นๆ
จากนั้นทำการวัดCค่า14UF
ถ้าCดีจะต้องตีขึ้นประมาณเลข3
แล้วลงจนสุดหรือเกือบสุด
ถ้าไม่มีC(คาแปซิเตอร์)มอเตอร์จะมีเสียงตืด
แต่มอเตอร์ไม่หมุน
เนื่องจากCจะมีหน้าที่เก็บประจุคลายประจุ
ทำให้เกิดแรงดันไฟเพิ่มขึ้น2เท่าตัว
เช่นไฟAC 220V จะเพิ่มเป็น440V
แต่เวลาวัดจะได้ประมาณ230V
ตารางค่าการวัดCด้วยมิเตอร์เข็มย่านX10K
ถ้าขึ้นประมาณเลข3 จะได้14UF
ถ้าขึ้นประมาณเลข6.5 จะได้10UF
ถ้าขึ้นประมาณเลข7 จะได้9.5UF
ถ้าขึ้นประมาณเลข13 จะได้3.3UF
ถ้าขึ้นประมาณเลข22 จะได้2.2UF
ถ้าขึ้นประมาณเลข40-50 จะได้1UF
ถ้าขึ้นประมาณเลข45 จะได้0.63UF
ถ้าขึ้นประมาณเลข70-90 จะได้0.47UF
ถ้าขึ้นประมาณเลข120-200 จะได้0.22UF
ถ้าขึ้นประมาณเลข300 จะได้0.1UF
ถ้าขึ้นประมาณเลขกระดิกนิดเดียว จะได้0.01UF
5.การวัดไฟมอเตอร์ของเครื่องซักผ้า
ไม่ควรใช้มิเตอร์ดิจิตอล
เพราะถ้าเรากดปลายสายวัดไม่แน่นจะเกิดแรงดันผี
อาจทำให้หลงทางได้
ควรใช้มิเตอร์เข็มในการวัดจะดีกว่า
ในการวัดขณะมอเตอร์ทำงานสั้นๆ
เช่นขณะชั่งน้ำหนัก
มอเตอร์จะหมุนแบบกระตุก
ทำให้มิเตอร์จับแรงดันไฟไม่ทัน
ทำให้ค่าที่ได้ต่ำจากความเป็นจริง
เช่น230Vแต่วัดได้150Vเป็นต้น
แต่ถ้ามอเตอร์หมุนยาวจะวัดได้230Vปกติ
วัดไฟขณะดีโดยการกดPOWERแล้วกดSTART
โดยการกดPOWER
วัดเหลืองน้ำเงิน ดิจิตอลได้0.05V เข็มได้0V
กดSTARTพอปั่น
ดิจิตอลได้140V เข็มได้155V
กดPOWER
วัดเหลืองแดง ดิจิตอลได้0.05V เข็มได้0V
กดSTARTพอปั่น
ดิจิตอลได้140V เข็มได้155V
กดPOWER
วัดแดงน้ำเงิน ดิจิตอลได้0.05V เข็มได้0V
กดSTARTพอปั่น
ดิจิตอลได้400V เข็มได้240V
วัดไฟขณะดีโดยการกดPOWER
แล้วกดSPINแล้วกดSTART
กดPOWER
วัดเหลืองน้ำเงิน ดิจิตอลได้0.05V เข็มได้0V
กดSPIN กดSTART
พอปั่น ดิจิตอลได้140V-275V
เข็มได้140V-270V
กดPOWER
วัดเหลืองแดง ดิจิตอลได้0.05V เข็มได้0V
กดSPIN กดSTART
พอปั่น ดิจิตอลได้ 225V-229V
เข็มได้ 225V
กดPOWER
วัดน้ำเงินแดง ดิจิตอลได้0V เข็มได้0V
กดSPIN กดSTART
พอปั่น ดิจิตอลได้ 260V-384V
เข็มได้ 260V-380V
ถ้าวัดไฟที่สายสีเหลืองกับน้ำเงิน
หรือสายสีเหลืองกับแดง
หรือสายสีน้ำเงินกับแดง
ถ้าวัดแล้วไฟตกเหลือประมาณ50Vแสดงว่าTRIACรั่ว
ให้ทำการเจาะบอร์ดด้วยความร้อนของหัวแร้ง
จากนั้นก็ทำการเอาTRIACออกมาวัด
โดยการวัดโอมห์ที่ขา1(T1)กับขา2(T2)
โดยใช้มิเตอร์เข็มตั้งX10K
ให้ทำการวัด2ครั้ง
ครั้งที่2ให้สลับสายวัดสีดำเป็นสีแดง
และสีแดงเป็นสีดำ
เพราะTRIACนำไฟได้ทั้งบวกและลบ
สายวัดสีดำเป็นไฟบวกออกจากมิเตอร์
สายวัดสีแดงเป็นไฟลบออกจากมิเตอร์
ให้สังเกตุดีๆว่าเข็มขึ้นหรือไม่ถ้าขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย
ก็แสดงว่าTRIACรั่วแล้วทำให้จ่ายไฟตก
จาก220Vเหลือ50V
ให้ทำการเปลี่ยนเฉพาะตัวเสียก็พอ
ส่วนตัวไม่เสียไม่ต้องเปลี่ยน
ส่วนใหญ่จะเสียTRIACตัวที่2
เพราะเป็นตัวสั่งมอเตอร์หมุนขวา
เพราะเวลาปั่นแห้งหมุนขวา
หลักการทำงานของมอเตอร์เครื่องซักผ้า
ถ้ามอเตอร์หมุนซ้าย ซีพียูจะสั่งไฟสัญญาณ
ไปที่ขาGATEของTRIACตัวที่1
โดยมีขั้นตอนดังนี้
ไฟACเส้นหนึ่ง
เข้าที่ขั้วสายสีเหลือง(ขากลางมอเตอร์)
ออกสายสีน้ำเงิน(ขาริมมอเตอร์)
แล้วไปรอที่ขาT2ของTRIAC
เมื่อซีพียูสั่งงานจะมีไฟสัญญาณ
มาที่ขาGATEของTRIAC
ทำให้ขาT2กับT1เปรียบเสมือนชอตกัน
ทำให้ไฟที่รออยู่ที่ขาT2ของTRIAC
ไหลออกขาT1ของTRIAC
ลงไฟACอีกเส้นครบวงจร
มอเตอร์หมุนซ้าย
ถ้ามอเตอร์หมุนขวา ซีพียูจะสั่งไฟสัญญาณ
ไปที่ขาGATEของTRIACตัวที่2
โดยมีขั้นตอนดังนี้
ไฟACเส้นหนึ่ง
เข้าที่ขั้วสายสีเหลือง(ขากลางมอเตอร์)
ออกสายสีแดง(ขาริมมอเตอร์)
แล้วไปรอที่ขาT2ของTRIAC
เมื่อซีพียูสั่งงานจะมีไฟสัญญาณ
มาที่ขาGATEของTRIAC
ทำให้ขาT2กับT1เปรียบเสมือนชอตกัน
ทำให้ไฟที่รออยู่ที่ขาT2ของTRIAC
ไหลออกขาT1ของTRIAC
ลงไฟACอีกเส้นครบวงจร
มอเตอร์หมุนขวา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น